
สัดส่วนผู้สูบบุหรี่ในประเทศญี่ปุ่นตกลงอย่างต่อเนื่อง โดยสถิติในปี 2018 นั้นลดลงครึ่งหนึ่งจาก 36% ในยุคสมัยเฮเซ (Heisei) ในปี 1989
บริษัท Japan Tobacco Inc ชี้ว่าการลดลงดังกล่าวเกิดจากผู้คนใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น เข้าสู่ยุคของผู้สูงอายุ และมีมาตรการควบคุมการสูบบุหรี่ที่เข้มงวดขึ้น อีกทั้งภาษีบุหรี่ที่ทำให้บุหรี่มีราคาแพงขึ้น
จากการทำการสำรวจของบริษัท Japan Tobacco พบว่าอัตราการสูบบุหรี่ของกลุ่มคนอายุ 20 ปีขึ้นไปตกลงจาก 36.1% ในปี 1989 เหลือเพียง 17.9% โดยสัดส่วนของผู้สูบบุหรี่ที่เป็นผู้ใหญ่ในกลุ่มผู้ชายนั้นลดลงจาก 61.1% เหลือเพียง 27.8% ทั้งนี้ อัตราดังกล่าวทำให้ทั้งกลุ่มสูบบุหรี่ที่เป็นผู้ชายและผู้หญิงต่างตกลงต่ำสุดตั้งแต่มีการทำสำรวจมาตั้งแต่ปี 1965
อัตราการสูบบุหรี่ยังคงตกลงอย่างต่อเนื่องหลังจากสูงสุดในปี 1966 อยู่ที่ 49.4% และในกลุ่มผู้สูบบุหรี่ที่เป็นผู้ชายอย่างเดียวมีถึง 83.7%
การเคลื่อนไหวขององค์กรต่อต้านการสูบบุหรี่ถือว่าเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ช่วยลดอัตราผู้สูบบุหรี่ลง นาย Fumisato Watanabe อายุ 81 ปี หัวหน้าศูนย์ข้อมูลเกี่ยวกับยาสูบกล่าวว่า 40 กว่าปีก่อนนั้นตอนที่เขาเริ่มทำงานต่อต้านการสูบบุหรี่เพื่อสิทธิของผู้ไม่สูบบุหรี่ แทบจะไม่มีมาตรการควบคุมการสูบบุหรี่เลยไม่ว่าจะเป็นในระบบขนส่งสาธารณะ หรือสถานที่สาธารณะ
ในปี 1987 สถานีรถไฟเริ่มมีการห้ามสูบบุหรี่ตามชานชะลา และในขบวนรถไฟเช่นกัน ต่อมาในปี 1999 ก็มีการห้ามสูบบุหรี่ในสายการบินทั้งหมดบนเครื่องบินโดยสารทุกลำ
ภายใต้การแก้ไขกฎหมายเพื่อส่งเสริมสุขภาพครั้งล่าสุดในเดือนกรกฎาคมปีก่อน (ปี 2018) จะมีการห้ามการสูบบุหรี่ตามหลักการตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2020 จะมีการห้ามสูบบุหรี่ภายในอาคารที่มีผู้ใช้ร่วมกันจำนวนมาก เช่น ออฟฟิศ ร้านอาหาร ล๊อบบี้โรงแรม ซึ่งอนุญาตให้สถานที่ดังกล่าวสามารถจัดพื้นที่พิเศษให้กับผู้สูบบุหรี่ โดยบริเวณดังกล่าวจะต้องไม่ให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม อย่างไรก็ตามวันที่ 1 กรกฎาคม 2019 นี้ กฎหมายการห้ามสูบบุหรี่ภายในอาคารตามโรงเรียน โรงพยาบาล และสถานที่ราชการจะเริ่มมีผลบังคับใช้
กฎหมายควบคุมการสูบบุหรี่มีความเข้มงวดขึ้นเพื่อที่จะลดการเกิดควันบุหรี่มือสอง ซึ่งเริ่มใช้แล้วในบางพื้นที่ของประเทศ เช่น โตเกียว และชิบะ ทั้งนี้นายวาตานาเบะ กล่าวว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่กฎหมายได้รับการปรับปรุง เพราะกฎหมายที่มีอยู่ก่อนนั้นไม่เข้มงวดพอ
นอกจากนี้ผู้สูบบุหรี่จะยังคงเห็นการขึ้นราคาของบุหรี่ ในปี 1989 ราคาบุหรี่ยี่ห้อ Mild Seven ของบริษัท Japan Tobacco แพคหนึ่งมีราคาอยู่ที่ ¥220 ซึ่งในปัจจุบันมีราคาถึง ¥480 เนื่องจากมีการขึ้นภาษี
ในขณะเดียวกันผู้ผลิตบุหรี่รายใหญ่ๆ ก็หันไปทุ่มเทกับผลิตภัณฑ์ยาสูบให้ความร้อนแต่ไม่เผาไหม้ (heat-not-burn product) แทน ซึ่งตัวแทนบริษัท Japan Tobacco กล่าวว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีกลิ่นน้อยกว่า และถือว่ามีความเสี่ยงต่อสุขภาพน้อยกว่า ปัจจุบัน กฎหมายอนุญาตให้ร้านอาหารสามารถจัดห้องพิเศษสำหรับผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบให้ความร้อนแต่ไม่เอาไหม้ ทั้งนี้ บริเวณดังกล่าวสามารถให้บริการอาหารหรือเครื่องดื่มได้
More Stories
แนวทางการลดความเสี่ยงในการควบคุมยาสูบ
จากการศึกษาพบว่าไม่มีหลักฐานใดที่แสดงให้เห็นว่าผู้ที่ได้รับนิโคตินจากบุหรี่ไฟฟ้าจะเปลี่ยนเป็นผู้ที่สูบบุหรี่มวนได้
นิโคตินคืออะไร กับผลกระทบต่อสุขภาพอย่างไร