
ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขและกลุ่มรณรงค์ต่อต้านการสูบบุหรี่ต่างแสดงความกังวลว่าบุหรี่ไฟฟ้าจะทำให้เด็กและเยาวชนรู้สึกว่าการสูบบุหรี่เป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่การศึกษาโดยมหาวิทยาลัยคาร์ดิฟ (Cardiff University) พบว่าความนิยมของบุหรี่ไม่ได้ทำให้เยาวชนในสหราชอาณาจักรหันมาสูบบุหรี่หรือมองว่าการสูบบุหรี่เป็นเรื่องธรรมดาเลย แม้ว่าการใช้บุหรี่ไฟฟ้าได้รับความนิยม แต่การใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบในกลุ่มเด็กและเยาวชนยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง
งานวิจัยดังกล่าวตีพิมพ์ในวารสารควบคุมยาสูบชี้ให้เห็นว่าจำนวนวัยรุ่นที่บอกว่าเคยลองสูบบุหรี่ หรือคิดว่าการสูบบุหรี่เป็นเรื่องที่ยอมรับได้นั้นยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นการทำการศึกษาข้อมูลในประเทศอังกฤษ เวลส์ และสกอตแลนด์ ซึ่งพบว่า
- ตั้งแต่ปี 1998 – 2015 กลุ่มเยาวชนอายุ 13 – 15 ปีที่เคยสูบบุหรี่ลดลงจาก 60% เหลือ 19%
- กลุ่มเด็กอายุ 13 – 15 ปีที่สูบบุหรี่เป็นประจำก็ตกลงจาก 19% เหลือ 5%
- กลุ่มเยาวชนที่เชื่อการสูบบุหรี่ถือเป็นเรื่องปกติลดลงจาก 70% ในปี 1999 เหลือ 27% ในปี 2015
- การกินเหล้าและการเสพกัญชาลดลงเช่นกันในช่วงเวลาดังกล่าว
งานวิจัยดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากสถาบันแห่งชาติเพื่อการวิจัยด้านสุขภาพ (the National Institute for Health Research) โดยร่วมมือนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเอดินบะระ (University of Edinburgh) มหาวิทยาลัยสเตอร์ลิง (University of Sterling) มหาวิทยาลัยกลาสโกว์ (University of Glasgow) และมหาวิทยาลัยบริสตอล (University of Bristol) โดยเน้นศึกษาผลการสำรวจระดับชาติ 3 รายงานที่ครอบคลุมมุมมองของหนุ่มสาวกว่า 250,000 คน
Dr Graham Moore จากศูนย์พัฒนาและประเมินมาตรการซับซ้อนเพื่อการพัฒนาทางด้านสาธารณสุข (the Centre for the Development and Evaluation of Complex Interventions for Public Health Improvement) กล่าวว่า ผลการศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่ามีความกังวลมากเกินไปว่าบุหรี่ไฟฟ้าจะทำให้เยาวชนสูบบุหรี่เพิ่มขึ้น ซึ่งธรรมชาติของบุหรี่ไฟฟ้ารวมไปถึงสถานการณ์การขายหรือการใช้บุหรี่ไฟฟ้านั้นเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เราจะต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่าส่งผลอย่างไรต่อเยาวชน อย่างไรก็ตามการศึกษานี้แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการพยายามลดการสูบบุหรี่ในกลุ่มเยาวชนตลอด 20 ปีที่ผ่านมา และยังไม่พบหลักฐานว่าบุหรี่ไฟฟ้าจะทำให้ความนิยมในการสูบบุหรี่กลับมา
รายงานดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าการลองใช้บุหรี่ไฟฟ้ากลายมาเป็นที่นิยมในกลุ่มหนุ่มสาวที่ไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อน แม้ว่าการใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นประจำในกลุ่มดังกล่าวยังมีน้อยมาก
ศาสตราจารย์ Linda Bauld จากมหาวิทยาลัยเอเดนบะระ (University of Edinburgh) กล่าวเสริมว่า วัยรุ่นใน Great Britain ลองบุหรี่ไฟฟ้าในตอนที่บุหรี่ไฟฟ้ายังไม่ได้รับการควบคุม และสถิติล่าสุดแสดงให้เห็นว่าเทรนด์ดังกล่าวยังคงเพิ่มขึ้นจนถึงปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ดีการศึกษาดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าการสูบบุหรี่ในเยาวชนยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง
เมื่อปี 2016 รัฐบาลเวลส์มีความกังวลว่าบุหรี่ไฟฟ้าจะทำให้การสูบบุหรี่กลายเป็นเรื่องธรรมดา จึงพยายามที่จะแบนบุหรี่ไฟฟ้าจากสถานที่ที่เด็กๆ เข้าถึง อย่างไรก็ดีฝ่ายค้านมองว่าการแบนบุหรี่ไฟฟ้าจะกลายเป็นอุปสรรคขัดขวางผู้สูบบุหรี่ให้เปลี่ยนไปใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพื่อเลิกบุหรี่ และสุดท้ายรัฐก็ตัดสินใจไม่แบน
แคมเปญควบคุมยาสูบโดยมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ของเวลส์ (ASH Wales) เชื่อว่าบุหรี่ไฟฟ้าจะมีบทบาทสำคัญในการลดอัตราการสูบบุหรี่ Suzanne Cass ประธานมูลนิธิกล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีที่เห็นผลของการศึกษานี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบุหรี่ไฟฟ้าจะถูกพิจารณาให้เป็นอุปกรณ์ช่วยเลิกบุหรี่ที่มีประสิทธิภาพซึ่งเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าการสูบบุหรี่มวน มากกว่าการที่มองว่าบุหรี่ไฟฟ้าจะเพิ่มจำนวนผู้สูบบุหรี่”
Simon Clark ผู้อำนวยการกลุ่มผู้สูบบุหรี่ฟอเรสต์ (Forest) กล่าวว่า “งานวิจัยดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าไม่มีอะไรต้องกลัวจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ผลการศึกษาดังกล่าวสนับสนุนความคิดของเราว่ารัฐบาลควรผ่อนปรนมาตรการควบคุมการโฆษณาบุหรี่ไฟฟ้า และถึงเวลาที่เจ้าหน้าที่ภาครัฐควรต้องเป็นตัวอย่างและยกเลิกมาตรการข้อจำกัดในการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในสถานที่ทำงานและสถานที่สาธารณะอื่นๆ … นอกจากนี้ทัศนคติของคนหนุ่มสาวต่อการสูบบุหรี่ยังชี้ให้เห็นว่าพวกเขาเข้าใจดีถึงผลกระทบต่อสุขภาพจากการสูบบุหรี่ ตอนนี้พวกเขาจำเป็นต้องได้รับการสอนเกี่ยวกับทางเลือกและความรับผิดชอบส่วนบุคคล เมื่อพวกเขาเป็นผู้ใหญ่พวกเขาจะได้สามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลโดยไม่โดนรัฐแทรกแซง
More Stories
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ควรให้ความสำคัญกับการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้ามากกว่าการห้ามสูบบุหรี่
แนวทางการลดความเสี่ยงในการควบคุมยาสูบ
นักเคลื่อนไหวบุหรี่ไฟฟ้ายกย่องกฎหมายบุหรี่ไฟฟ้าใหม่ในฟิลิปปินส์