หมอควรแนะนำคนไข้ให้พิจารณาเปลี่ยนไปใช้บุหรี่ไฟฟ้า

UNSW Australia – หมอควรแนะนำให้ผู้ป่วยที่มีความพยายามจะเลิกบุหรี่หลายครั้งหลายคราแต่ไม่ประสบความสำเร็จสักที ให้หันมาลองใช้บุหรี่ไฟฟ้าแทน เนื่องจากมีงานวิจัยและหลักฐานมากมายเพิ่มขึ้นว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นเครื่องมือช่วยเลิกบุหรี่มวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณหมอทั้งหลายจึงควรแนะนำให้ผู้ป่วยเหล่านั้นใช้ เพราะมีอันตรายน้อยกว่าการสูบบุหรี่มวน

ทั้งนี้หลักฐานดังกล่าวตีพิมพ์ในวารสารอายุรศาสตร์ของราชวิทยาลัยแพทย์แห่งออสเตรเลีย (Internal Medicine Journal of the Royal Australian College of Physicians) โดย ร.ศ. คอลิน เมนเดลซอห์น แห่งมหาวิทยาลัยนิวเซาต์เวลส์ (University of New South Wales)  บุหรี่ไฟฟ้านั้นเป็นอุปกรณ์ชนิดหนึ่งซึ่งจะใช้ความร้อนจากแบตเตอรี่ทำให้ของเหลวที่อยู่ภายในร้อนขึ้นจนกลายเป็นไอระเหยเพื่อส่งนิโคตินเข้าสู่ร่างกาย อุปกรณ์ดังกล่าวเลียนแบบการสูบบุหรี่แบบดั้งเดิม แต่ตัดการเผาไหม้ใบยาสูบออก  ซึ่งการเผาไหม้ล้วนแล้วแต่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

งานวิจัยในอังกฤษและสหรัฐอเมริกา พบว่าการใช้บุหรี่ไฟฟ้ามีความเชื่อมโยงกับอัตราการเลิกบุหรี่ได้สำเร็จสูงกว่าเมื่อเทียบกับผู้ไม่ได้ใช้ โดยอัตราการเลิกบุหรี่ได้สำเร็จจะสูงสุดในหมู่ผู้ที่ใช้บุหรี่ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ๆ ซึ่งใช้บุหรี่ไฟฟ้าทุกวันเพื่อรับนิโคตินในรูปอี-ลิควิดเข้าสู่ร่างกาย

งานวิจัยโดยราชวิทยาลัยแพทย์แห่งสหราชอาณาจักร (Royal College of Physicians) ตีพิมพ์ในปี 2559 สรุปว่าอันตรายจากการใช้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นระยะเวลานานนั้นต่ำกว่า 5% เมื่อเทียบกับการสูบบุหรี่ทั่วไป นอกจากนี้งานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่รายงานของเมนเดลซอห์น (Mendelsohn’s review) บอกว่าผู้สูบบุหรี่ที่เปลี่ยนมาใช้บุหรี่ไฟฟ้ามีสุขภาพดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยผู้ป่วยซึ่งมีภาวะหอบหืด ถุงลงโป่งพองมีอาการดีขึ้น รวมทั้งค่าความดันโลหิต สุขภาพหัวใจและหลอดเลือด การทำงานของปอดก็ดีขึ้นด้วย เมนเดลซอห์นกล่าวว่า “แพทย์มีหน้าที่ต้องให้การรักษาอย่างดีที่สุดที่จะทำได้แก่ผู้ป่วย” และเสริมว่า “การไม่ยอมพิจารณาใช้ทางเลือกในการรักษาที่สมควรใช้ ที่จะช่วยป้องกันโรคภัยที่ก่อให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ย่อมเป็นการขัดต่อจรรยาบรรณแพทย์” ทั้งนี้รายงานจากคณะกรรมการรัฐสภาของออสเตรเลียซึ่งตีพิมพ์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเปิดเผยว่าคณะกรรมการลงคะแนนห้าต่อสามเสียงให้ห้ามขายบุหรี่ไฟฟ้าที่มีนิโคตินในออสเตรเลียต่อไป แต่รายงานจากคณะกรรมการเสียงข้างน้อย (สามเสียงที่เหลือ) สรุปว่าการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในผู้ที่ล้มเหลวกับการใช้วิธีอื่น ๆ เลิกบุหรี่ “อาจช่วยชีวิตคนได้นับหลายหมื่นคน” และ “บุหรี่ไฟฟ้าควรเป็นสินค้าอุปโภคบริโภคที่คนออสเตรเลียสามารถซื้อหาได้”

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ Doctors have ethical obligation to consider e-cigarette use of patients

https://newsroom.unsw.edu.au/news/health/doctors-have-ethical-obligation-consider-e-cigarette-use-patients