
Dr K K Agarwal ประธานมูลนิธิดูแลหัวใจประเทศอินเดีย (Heart Care Foundation of India – HCFI) กล่าวว่าทั้งที่มีความพยายามในการลดภาระที่เกิดจากการสูบบุหรี่ในประเทศอินเดียด้วยการใช้ระบบภาษีและการเข้มงวดกับคำเตือนสุขภาพ แต่ปริมาณบุหรี่ก็ไม่ได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ตามแถลงการณ์ของกลุ่มแพทย์ชั้นนำ HCFI ได้เขียนถึงสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานรัฐสาธารณสุขเรื่องนโยบายและมาตรการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งคาดว่าจะเผยแพร่ในเดือนเมษายนของวารสารการปฏิบัติทางคลินิกของอินเดีย (Indian Journal of Clinical Practice) โดยมีเนื้อหาหลักคือ ความจำเป็นที่จะต้องมีมาตรการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งยังคงต้องเอื้อให้ผู้สูบบุหรี่ที่เป็นผู้ใหญ่สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์เหล่านั้นที่ได้รับการควบคุมคุณภาพ เพื่อช่วยพวกเขาให้เลิกสูบบุหรี่มวน (บุหรี่ที่มีการเผาไหม้) เพื่อที่จะลดอันตราย
มากไปกว่านั้น จดหมายฉบับดังกล่าวยังเรียกร้องให้รัฐบาลอินเดียต้องทำให้มั่นใจได้ว่านโยบายสำหรับบุหรี่ไฟฟ้านั้นจะต้องป้องกันการทำการตลาดและการโฆษณา ป้องกันการเข้าถึงของเยาวชนและหญิงมีครรภ์ การควบคุมป้ายฉลาก การควบคุมคุณภาพและมาตรฐานการผลิต
Dr Anoop Misra จาก Fortis Center ผู้เชี่ยวชาญด้านเบาหวานกล่าวว่า ทั้งนี้ รัฐบาลอินเดียควรที่จะมีเงินทุนเพื่อการทำการศึกษาวิจัยอิสระและศึกษาอย่างต่อเนื่องถึงผลกระทบต่อสุขภาพที่เกิดขึ้นจากบุหรี่ไฟฟ้า และหมั่นตรวจสอบนโยบายบ่อยครั้งบนพื้นฐานของหลักฐาน อีกทั้งควรมีคำแนะนำที่สอดคล้องกันจากหน่วยงานกำกับดูแลเกี่ยวกับมาตรฐานผลิตภัณฑ์และส่วนผสมพื้นฐานด้วยวัตถุประสงค์ที่จะลดความเป็นพิษและการเสพติดของผลิตภัณฑ์ยาสูบและผลิตภัณฑ์ลดอันตรายทางเลือกอื่นๆ
Experts urge policy-level changes in tobacco consumption
More Stories
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ควรให้ความสำคัญกับการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้ามากกว่าการห้ามสูบบุหรี่
แนวทางการลดความเสี่ยงในการควบคุมยาสูบ
FDA เปิดตัวเว็บไซต์ให้ความรู้เพื่อการศึกษาเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า