บุหรี่ไฟฟ้า กับสิทธิที่ชอบธรรมของผู้บริโภค

เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ศาสตราจารย์ ดร.อัคหมัด ซอว์กี้ ยาชิด ประธานของมูลนิธิผู้สังเกตการณ์สาธารณสุขสาธารณะของสาธารณรัฐอินโดนีเซียกับคณะ

ได้จัดการประชุมเสวนาที่มีชื่อว่าการลดอันตรายครั้งที่ 1 หรือ the 1St asia harm reduction Forum 2017 ขึ้นที่ห้องบอลรูมซีของโรงแรมแชงกรี-ลา นครจาการ์ตา อินโดนีเซียโดยมีผู้แทนนานาชาติต่างๆ ในเอเชียและแปซิฟิกร่วมเสวนาจำนวน 17 คนด้วยกัน

คณะผู้แทนจากนานาชาติจาก 10 ประเทศ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกไกลที่มาร่วมเสวนาในครั้งนี้เพื่อแสดงทัศนะและข้อเสนอของผู้บริโภคที่เป็นผู้สูบบุหรี่ซิกาแรตในปัจจุบันโดยมีข้อเรียกร้องให้รัฐบาลโดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุขของแต่ละประเทศเลิกมองผู้สูบบุหรี่ซึ่งตกเป็นจำเลยของสังคมเสียทีเพราะปัจจุบันได้มีบุหรี่ซิกาแรตที่มีไฟฟ้าเป็นส่วนประกอบที่เรียกว่าอีซิกาแรตได้เข้ามาช่วยลดอันตรายจากการบริโภคบุหรี่ได้มากถึงร้อยละ 95

การเสวนาครั้งนี้เริ่มจากผู้ที่เชี่ยวชาญ 2 ท่าน คือ ศาสตราจารย์ ดร.อัคหมัด ซอว์กี้ ยาชิด, และดร.คอนสแตนตินอส ฟาซาลินอส นักวิจัยด้านสาธารณสุขที่สถาบันโอนาสซิสเซ็นเตอร์ กรุงเอเธนส์ กรีซ ได้กล่าวถึงเหตุผลในการจัดเสวนา

หลังจากนั้นมีการประชุมช่วงที่หนึ่งจาก 5 ผู้แทนนานาชาติ คือนายอาสา ศาลิคุปต์ ผู้แทนผู้บริโภคชาวไทย, นายอัซรูล ฮาฟิช บินไซนุดดิน จากมาเลเซีย, นายทอม พินแลค ประธานของค์กรผู้บริโภคของฟิลิปปินส์, นายนิลเลช เจน ผู้แทนอินเดีย, และ นายดิมาส เจอเรเมียผู้แทนการบริโภคชาวอินโดนีเซีย

ในช่วงบ่ายได้มีการเสวนาอีก 2 ช่วงด้วยกัน ช่วงที่หนึ่งมีผู้มาให้ข้อมูล 3 ท่าน คือ นางสาวจีนนี่ คาเมอร่อน จากออสเตรเลีย, นายโนบุฮิโกะ ฮาราดะ ทนายความจากญี่ปุ่น, ดร.โดนัลด์ โลว์ อาจารย์ของมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์

ช่วงที่ 2 มีผู้มาให้ทัศนะการบริโภคบุหรี่ไฟฟ้าอีก 7 ท่าน คือ มะหะหมัด อิคราซูล อามัล ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์ของอินโดนีเซีย, นายราเยช ชารันจากอินเดีย, นายรอน ซิสซั่น กับ นายเจย์ จาสซูลจากมหาวิทยาลัยซานโตโทมัสของฟิลิปปินส์, นายแอนดรูว์ ดาโรซา จากสิงคโปร์, นางอามาลิย่า จากมหาวิทยาลัยปัดจาจาราน อินโดนีเซีย, และนายแพทย์ชาคริต ลิมปาณีตจากโรงพยาบาลเซนต์แมรี่ นครราชสีมา

การประชุมเสวนาครั้งนี้ผู้ที่เข้ามาร่วมให้ความคิดเห็นที่เหมือนกันว่า ผู้บริโภคบุหรี่ซิกาแรตทั่วเอเชียหลายร้อยล้านคนล้วนเผชิญอันตรายจากการบริโภคบุหรี่อินเดียมีผู้สูบบุหรี่มากที่สุด 300 ล้านคน ฟิลิปปินส์มี 25 ล้านคน ไทย 12 ล้านคน อินโดนีเซีย 50 ล้านคน สิงคโปร์ 1 ล้านคน มาเลเซีย 5 ล้านคน ญี่ปุ่น 25 ล้านคนและออสเตรเลีย 6 ล้านคน

นักวิชาการนานาชาติกลุ่มนี้ได้ให้ข้อมูลตรงกันว่า บุหรี่ไฟฟ้านั้นลดอันตรายจากการบริโภคได้มากเพราะคนติดบุหรี่มาจากการต้องการเสพนิโคติน

จึงเป็นสิทธิอันชอบธรรมของผู้บริโภคในเอเชีย ที่จะมีสิทธิได้บริโภคบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งมีไทยมีกฎหมายห้ามบริโภคอยู่เพียงประเทศเดียว จึงมีคำถามว่าทำไมกระทรวงสาธารณสุขไทยจึงออกกฎหมายห้ามการบริโภคบุหรี่ไฟฟ้ามีเหตุผลที่เพียงพอจะรับฟังได้หรือไม่