
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมามีข่าวว่ากลุ่มผู้บริโภคในนามกลุ่มลาขาดควันยาสูบที่มีนายมาริษ กรัณยวัฒน์ เป็นแกนนำ ได้ไปยื่นหนังสือเรียกร้องสิทธิในการขอบริโภคบุหรี่ด้วยบุหรี่ไฟฟ้า หรืออีซิกาแรต จากภาครัฐ โดยยื่นหนังสือทั้งที่กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงพาณิชย์ โดยได้ชี้แจงรายละเอียดให้สื่อมวลชนแขนงต่างๆ ได้ทราบเหตุผลและข้อเท็จจริงให้ทุกๆ ฝ่ายรับฟัง
อุตสาหกรรมยาสูบของโลกนั้น มีความเจริญรุ่งเรืองมาไม่ยาวนานน้อยกว่า 500 ปี นับตั้งคริสโตเฟอร์ โคลัมบัสเดินทางไปค้นพบหมู่เกาะอินเดียตะวันตก และอเมริกาจนถึงปัจจุบันอุตสาหกรรมดังกล่าวมีผู้บริโภคทั่วโลกไม่น้อยกว่า 1,400 ล้านคน หรือร้อยละ 20 ของประชากรโลก ส่วนเรื่องรายได้เข้ารัฐทุกๆ ชาตินั้นไม่ต้องกล่าวถึงมีมูลค่ามหาศาลต่อปีไม่น้อยกว่า 400 ล้านล้านบาทขึ้นไป โดยมีผู้ทำงานเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไม่น้อยกว่า 300 ล้านคน
สำหรับประเทศไทยนั้นเมื่อไม่นานมานี้รัฐบาลได้ออกกฎหมายขึ้นภาษีสรรพสามิตและควบคุมการจำหน่ายและการผลิตบุหรี่ซิกาแรตอย่างเข้มงวดเพื่อป้องปรามและลดอันตรายจากการสูบบุหรี่ของประชาชนซึ่งในไทยมีผู้สูบบุหรี่ประจำประมาณ 12 ล้านคน หรือร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด
การควบคุมไม่ให้คนไทยสูบบุหรี่เพราะผู้สูบจะเป็นโรคร้ายและทำอันตรายต่อชีวิตของประชาชนจากโรคมะเร็งปอด โรคถุงลมโป่งพอง และโรคหลอดเลือดหัวใจตีบนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องเนื่องจากควันบุหรี่และทาร์มีสารพิษทำร้ายร่างกายมนุษย์แต่นิโคตินซึ่งเป็นสารทำให้คนติดนั้นมีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์แล้วว่าไม่มีอันตรายนิโคตินนั้นเหมือนกาเฟอีนที่ผู้บริโภคจะได้รับจากการดื่มกาแฟหรือชา
ด้วยเหตุที่ผู้สูบบุหรี่ต้องการได้รับนิโคตินนักวิทยาศาสตร์จึงคิดค้นผลิตบุหรี่ไร้ควันหรือบุหรี่ไฟฟ้าที่เรียกว่าอีซิกาแรตขึ้นมา เพื่อทดแทนและลดอันตรายต่อผู้บริโภคมีหลักฐานจากนานาชาติยืนยันแล้วว่ากระทรวงสาธารณสุขและคณะกรรมการอาหารและยาทั้งของสหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร, ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์, แคนาดา และญี่ปุ่น วิเคราะห์แล้วว่าบุหรี่ไฟฟ้าไม่มีอันตรายต่อผู้บริโภคเพราะใช้ระบบรับนิโคตินผ่านของเหลวหรือน้ำยา
แต่ประเทศไทยนั้นในปัจจุบันมีกฎหมายรุนแรงมากห้ามจำหน่ายและครอบครองบุหรี่ไฟฟ้ามีรายงานข่าวระบุว่ามีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหลายๆ ประเทศถูกเจ้าหน้าที่ทางการไทยจับกุมทั้งชาวอังกฤษ, สวิส และเวียดนาม ซึ่งสื่อในต่างประเทศได้เสนอข่าวให้นักท่องเที่ยวระมัดระวังทำให้เกิดภาพลบกระทบต่อรายได้จากการท่องเที่ยวของประเทศไทย
ปัจจุบันมีผู้บริโภคชาวไทยครอบครองและบริโภคบุหรี่ไฟฟ้าไม่น้อยกว่า 3 แสนคน ซึ่งแต่ละคนซื้อหาและนำเข้ามาจากต่างประเทศเนื่องจากในไทยผิดกฎหมายกลุ่มผู้บริโภคในนามกลุ่มลาขาดควันยาสูบจึงเรียกร้องขอให้ภาครัฐของไทยให้ทบทวนกฎหมายห้ามใช้และมีบุหรี่ไฟฟ้าเพราะเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและลิดรอนสิทธิของประชาชนมากเกินสมควรเรื่องนี้รัฐบาลน่าจะนำมาพิจารณาแก้ไขเพราะทำให้รัฐสูญเสียรายได้จากภาษีและเป็นช่องทางให้เกิดการทุจริตอีกด้วย
More Stories
แนวทางการลดความเสี่ยงในการควบคุมยาสูบ
FDA เปิดตัวเว็บไซต์ให้ความรู้เพื่อการศึกษาเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า
รัฐบาลอินโดนีเซียคาดว่าจะเปิดรับผลิตภัณฑ์ยาสูบทางเลือกนอกจากบุหรี่มากขึ้น