
ที่มา: https://www.ibtimes.com/new-nicotine-trend-3339791
แม้จะเป็นที่คาดการณ์ว่ายอดขายบุหรี่มีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ ในช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของ เชื้อไวรัสโควิด-19 หลังจากที่มีรายงานมากมายระบุถึงความคล้ายคลึงระหว่างอาการป่วยของผู้ที่สูบบุหรี่หนักกับผู้ติดเขื้อโควิด-19 ขั้นรุนแรง อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คาดกันไว้ เพราะแท้จริงแล้วทั้งบุหรี่ทั่วไปและผลิตภัณฑ์ไร้ควันมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ข้อมูลเหล่านี้ เป็นการยืนยันว่าความนิยมในการเสพนิโคตินไม่ใช่สิ่งที่จะหายไปง่ายๆ แม้โลกจะต้องเจอกับภาวะ เศรษฐกิจตกต่ำหรือเจอโรคระบาดใดๆ ก็ตาม และด้วยความที่นิโคตินดูเหมือนจะได้รับความนิยม ตลอดไปจึงอาจเป็นเหตุผลว่าทำไมผลิตภัณฑ์ไร้ควันอาจกลายเป็นสิ่งที่จะเข้ามาช่วยลดความเสี่ยงของผู้สูบบุหรี่และจะทำให้วงการยาสูบเปลี่ยนไป
อนุญาตแต่ไม่รับรอง : องค์การอาหาร และยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA) อนุญาตให้ขายผลิตภัณฑ์ไร้ควันบางส่วนได้แล้ว
ผลิตภัณฑ์ไร้ควันมีอยู่หลายรูปแบบ เช่น แบบที่มีส่วนผสมของใบยาสูบ, แบบที่ไม่มีส่วนผสมของใบยาสูบ, แบบที่ใช้เคี้ยว, แบบที่ใช้สูบ เป็นต้น ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ถูกส่งไปที่ FDA เพื่อขอขึ้นทะเบียนขายในประเทศอเมริกา แต่ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่จะถูกปฏิเสธการขึ้นทะเบียนด้วยเหตุผลทางด้านการปรุงแต่งรสชาติ อย่างไรก็ตามในวันที่ 12 ตุลาคม 2021 ทาง FDA ได้ประกาศการอนุญาตผลิตภัณฑ์นิโคตินไฟฟ้าเป็นครั้งแรก นั่นก็คือ VUSE จาก RJ Reynolds Vapor Company โดยหวังว่าผลิตภัณฑ์นี้จะช่วยปกป้องดูแล สุขภาพของประชาชนในภาพรวม
การอนุญาตดังกล่าว ไม่ได้หมายความว่าผลิตภัณฑ์นี้ปลอดภัยหรือได้รับการรับรองจาก FDA แต่พวกเขาแค่มองว่าผลิตภัณฑ์นี้ไม่ใช่รูปแบบที่วัยรุ่นนิยมและอีกมุมหนึ่งคือผลิตภัณฑ์นี้สามารถช่วยให้คนเปลี่ยนพฤติกรรมการสูบบุหรี่แบบปกติได้ ทั้งนี้ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ผ่านการตรวจสอบจาก FDA ได้แก่
● สนูส (Snus) : ผลิตภัณฑ์นิโคตินแบบอม ยี่ห้อ General Snus โดยบริษัท Swedish Match USA ซึ่งจากการอนุญาตของ FDA ในปี 2019 ทำให้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ ซึ่งมี 8 รูปแบบสามารถทำการสื่อสารกับผู้บริโภคได้ว่ามีความเสี่ยงน้อยกว่าการสูบบุหรี่
● แผ่นนิโคตินแบบเคี้ยว (Chewable Nicotine Discs) : ในวันที่ 19 ตุลาคม 2021 แบรนด์ชื่อ Verve Discs โดยบริษัท US Smokeless Tobacco Company LLC ได้รับอนุญาตให้สื่อสารได้ในฐานะผลิตภัณฑ์ยาสูบลดความเสี่ยง และจะวางขายทั่วไปในสหรัฐอเมริกาหลังจากที่เคยยุติการขายไปช่วงหนึ่ง
● ถุงนิโคตินสำหรับใช้ในช่องปาก (Nicotine pouches) : สินค้าแบรนด์ On! จากบริษัท Altria อยู่ระหว่างการพิจารณาของ FDA ถึงความเป็นไปได้ในการถูกจัด อยู่ในหมวดผลิตภัณฑ์ลดความเสี่ยง ซึ่งแม้ผลการพิจารณาจะยังไม่ออกมา แต่ผู้ผลิตก็มั่นใจว่าสินค้าตัวนี้จะส่งผลดีต่อระบบสาธารณสุข ทั้งนี้ตัวสินค้าได้ถูกจำหน่ายบนช่องทางออนไลน์มาระยะหนึ่งแล้ว และแม้ถุงนิโคตินจะดูเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับตลาดในสหรัฐอเมริกา แต่ก็เป็นสินค้าในหมวดผลิตภัณฑ์ไร้ควันที่ได้รับความนิยมในประเทศสวีเดน ซึ่งรู้จักกันในนาม “สนูส” (Snus) นั่นเอง
ถึงอย่างไร ก็มีผลิตภัณฑ์อีกกว่าหนึ่งล้านตัวที่ถูกปฏิเสธโดย FDA ด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน แต่หนึ่งในเหตุผลหลักก็คือมันมีแนวโน้มที่จะได้รับความสนใจจากวัยรุ่นหรือผู้ที่อายุต่ำกว่าที่กฏหมายกำหนด ซึ่งเป็นไปตามความตั้งใจของ FDA ที่ประกาศออกมาว่าต้องการยับยั้ง สินค้าที่อาจสร้างความเสี่ยงให้กับเยาวชนในภายหลัง
ร้านค้าขนาดใหญ่เริ่มวางขายผลิตภัณฑ์ยาสูบไร้ควันแทนผลิตภัณฑ์บุหรี่แบบดั้งเดิม
การตอบรับผลิตภัณฑ์ลดความเสี่ยงของ FDA ไม่ใช่สัญญาณเดียวที่ทำให้เห็นว่า ตลาดยาสูบกำลังเปลี่ยนแปลงไปแต่ประเด็นที่เราต้องพูดถึงเป็นอย่างแรกก็คือสังคมเปลี่ยนจากการรณรงค์ให้คนเลิกบุหรี่ไปเป็นการรณรงค์ให้คนหันมาหาทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้นหากเป็นไป ได้ทั้งนี้ร้านค้าใหญ่ๆ ในสหรัฐอเมริกาก็ได้เริ่มนำบุหรี่ทั้งแบบดั้งเดิมและผลิตภัณฑ์ไร้ควันที่ยังใช้ใบยาสูบ ออกจากชั้นสินค้า และแทนที่ด้วยผลิตภัณฑ์ไร้ควัน ประเภทบุหรี่ไฟฟ้า ตั้งแต่เมื่อ 2-3 ปีก่อน
ซึ่งแม้การตัดสินใจนี้จะมีสาเหตุเบื้องต้นมาจากเรื่องธุรกิจแต่ก็มีเป้าหมายเพื่อลดอัตราการสูบบุหรี่ของชาวอเมริกันลงเช่นกัน ดังที่ CEO ของบริษัท CVS Health กล่าวว่า มันเป็นสิ่งที่พวกเราต้องทำเพื่อช่วยให้ประชาชนมีระบบสาธารณสุขที่ดีขึ้นนั่นเอง
More Stories
แนวทางการลดความเสี่ยงในการควบคุมยาสูบ
นิโคตินคืออะไร กับผลกระทบต่อสุขภาพอย่างไร
การเปลี่ยนแปลงตลาดบุหรี่ไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกา ทำให้ส่วนแบ่งทางการตลาดของ Juul และ Vuse ลดลง