ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสาธารณสุขต่างให้การยอมรับความสำเร็จของประเทศญี่ปุ่น ที่สามารถลดอัตราการสูบบุหรี่ลงได้เกือบ 1 ใน 3 โดยใช้ระยะเวลาเพียง 3 – 4 ปีเท่านั้นหลังจากที่ผลิตภัณฑ์ยาสูบไร้ควันเริ่มเข้ามาเป็นทางเลือกทดแทนบุหรี่ในปี พ.ศ. 2557
โดยในงานสัมมนาออนไลน์ที่จัดโดยบริษัท Frost & Sullivan เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2560 ภายใต้ชื่อ “Tobacco Harm Reduction and Novel Nicotine and Tobacco Products-Evidence from the Japanese Market” ที่มุ่งเน้นการนำเสนอประสบการณ์ของตลาดประเทศญี่ปุ่น หลังจากที่ได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์นิโคตินและยาสูบแบบใหม่ (Novel Nicotine and tobacco products NNTPs) โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อนในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2557 งานสัมมนาครั้งนี้มีอีวอน ลูคัส จากบริษัท Frost & Sullivan (บริษัทที่ปรึกษาด้านการวิเคราะห์และวิจัยทางการตลาด) เป็นพิธีกรดำเนินการ
ดร. คูมามารุ ฮิโรย่า แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเลิกบุหรี่ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาล AOI Universal จากเมืองคาวาซากิ ได้กล่าวว่าอัตราการสูบบุหรี่ในประเทศญี่ปุ่นลดลงถึงร้อยละ 30 หลังจากที่เริ่มมีผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อน (Heated Tobacco Product: HTP) เข้ามาในตลาด นับเป็นความสำเร็จที่ผลิตภัณฑ์นิโคตินทดแทน (Nicotine Replacement Therapy: NTP) ไม่สามารถทำได้
“การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อนอย่าง IQOS ของบริษัทฟิลลิป มอร์ริส อินเตอร์เนชั่นแนล (PMI) ในปี พ.ศ. 2557 นั้นได้นำไปสู่อัตราการสูบบุหรี่ที่ลดลงภายใน 3-4 ปี ทำให้ปัจจุบันนี้ประเทศญี่ปุ่นเป็นตลาดผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อนที่ใหญ่ที่สุดในโลก” ดร. คูมามารุ ฮิโรย่ากล่าว
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2563 คณะกรรมการอาหารและยาในประเทศสหรัฐอเมริกาได้อนุญาตให้สามารถทำ ตลาดผลิตภัณฑ์ IQOS ในฐานะผลิตภัณฑ์แบบปรับลดความเสี่ยง (Modified Risk Tobacco Product: MRT) ได้คณะกรรมการอาหารและยาได้อนุญาตให้สามารถทำตลาดผลิตภัณฑ์ IQOS ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้ โดยสามารถสื่อสารให้ข้อมูลแก่
ผู้บริโภคได้ว่า IQOS เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ความร้อนแทนการเผาไหม้ยาสูบและผลการวิจัยได้พบว่าการเปลี่ยนจากการสูบบุหรี่แบบเดิมมาใช้ IQOS แทนจะช่วยลดการสัมผัสสารเคมี ที่อาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้อย่างมาก
ผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อนลดอัตราการสูบบุหรี่ในญี่ปุ่น ได้ดีกว่าผลิตภัณฑ์นิโคตินทดแทน ?
ดร. คูมามารุ ฮิโรย่าเผยว่า “หลังจากลองใช้แนวทางการใช้ผลิตภัณฑ์นิโคตินทดแทน ความสำเร็จในการลดอัตราการสูบบุหรี่นั้นกลับยังไม่ดีพอ แต่หลังจากปี 2557 ที่ได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อนสามชนิดอย่างเป็นทางการในญี่ปุ่น โดยอัตราการใช้ผลิตภัณฑ์ทางเลือกเหล่านี้ได้เพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 25 ของประชากรที่สูบบุหรี่ทั้งหมด ผลิตภัณฑ์นี้จึงได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยลดอัตราการสูบบุหรี่ในญี่ปุ่นได้มากถึงร้อยละ 30 ภายในเวลาสามถึงสี่ปี”
ผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อนเป็นผลิตภัณฑ์ทางเลือกไร้ควันเพื่อทดแทนบุหรี่แบบเดิม การใช้ผลิตภัณฑ์นี้มีความคล้ายคลึงกับการสูบบุหรี่ แต่ไม่มีควันจากการเผาไหม้เหมือนการสูบบุหรี่แบบเดิม เพราะอุปกรณ์ไฟฟ้าเหล่านี้จะใช้ความร้อนแทนการเผาไหม้ยาสูบเพื่อปล่อยไอละอองที่มีนิโคตินและรสชาติออกมา โดยผลวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่ก่อให้เกิดการเสียชีวิตและโรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่นั้นไม่ใช่นิโคตินแต่เป็นน้ำมันดินหรือทาร์และสารที่ก่อให้เกิดมะเร็งที่พบในควันยาสูบ
ผลวิจัยเผยผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อนไม่ได้ทำให้เยาวชนหันมาใช้
ในงานนี้ ดร.ฮิโรย่า ยังได้เปิดเผยอีกว่า จำนวนผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อนนั้นมีมากถึงร้อยละ 30 ของผู้สูบบุหรี่เพศชายในประเทศญี่ปุ่นและมีมากถึงร้อยละ 25 ของผู้สูบบุหรี่เพศหญิงในประเทศญี่ปุ่น ดร.ฮิโรย่ากล่าวว่า พบการใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อนควบคู่ไปกับการสูบบุหรี่ยังอยู่ในอัตราต่ำ โดยอัตราการใช้ผลิตภัณฑ์ควบคู่กันทั้งสองแบบอยู่ที่ร้อยละ 6.9 ของผู้สูบบุหรี่เพศชาย และร้อยละ 4.8 ของผู้สูบบุหรี่เพศหญิง และการศึกษาวิจัยของวิทยาลัยการแพทย์ มหาวิทยาลัยท
ตโตริ ที่ได้รับทุนจากกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ ได้ทำการศึกษาการใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อนในกลุ่มนักเรียนชั้นมัธยมต้น จำนวน 60,000 คน ผลวิจัยบ่งชี้ให้เห็นว่า การเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อนในกลุ่มนักเรียนชั้นมัธยมต้นนั้นอยู่ในอัตราที่ต่ำมาก โดยมีเพียงร้อยละ 0.1 เท่านั้น ทำให้เห็นว่าการเกรงกลัวว่าเยาวชนจะหันมาใช้ผลิตภัณฑ์นี้มากขึ้นนั้น เป็นความเชื่อที่ผิด
การใช้ผลิตภัณฑ์นิโคตินและยาสูบแบบใหม่ เป็นวิธีการช่วยเหลือที่เหมาะสมในการช่วยให้ผู้สูบบุหรี่สามารถเลิกบุหรี่ได้
ทางด้าน มาร์ค ดูกัน ผู้อำนวยการฝ่าย Transformational Health ของบริษัท Frost & Sullivan ก็ได้กล่าวถึงกรณีที่ญี่ปุ่นได้กลายมาเป็นตลาดผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อนที่ใหญ่ที่สุดในโลกนั้นสมควรนำมาเป็นกรณีศึกษาเพิ่มเติม เนื่องจากญี่ปุ่นได้กลายเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในการลดอัตราการสูบบุหรี่อย่างมีนัยยะสำคัญ
โดยในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา ได้มีผลิตภัณฑ์นิโคตินและยาสูบแบบใหม่ออกมาจำหน่ายในตลาดมากมายหลายประเภท โดยบุหรี่ไฟฟ้าได้รับการเปิดตัวและวางจำหน่ายครั้งแรกในปี 2547 และผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อนที่วางขายในปัจจุบันได้รับการเปิดตัวครั้งแรกในปี 2557
นายดูกันได้กล่าวเสริมว่าผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อนนั้นใช้หลักการการกำจัดการเผาไหม้โดยการทำให้ยาสูบเกิดความร้อนที่อุณหภูมิ 350 องศาเซนติเกรดหรือน้อยกว่า “และถึงแม้ว่าผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะไม่ได้ปราศจากความเสี่ยงโดยสิ้นเชิง แต่ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีศักยภาพในการส่งเสริมวิธีการลดการสูบบุหรี่ต่าง ๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน เป็นทางเลือกให้แก่ผู้ที่ไม่สามารถหรือไม่อยากเลิกบุหรี่” นายดูกันกล่าว
การสูบบุหรี่ยังคงเป็นสาเหตุการเสียชีวิตก่อนเวลาอันควรที่สามารถป้องกันได้อันดับต้น ๆ ของโลก โดยในแต่ละปีมีคนกว่า 7 ล้านคนเสียชีวิตจากโรคต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ จำนวนผู้ใช้ยาสูบทั่วโลกได้ลดลงน้อยมาก จาก 1.4 พันล้านคนในปี 2543 เหลือ 1.34พันล้านคนในปี 2561
“แม้ว่าเราจะเห็นอัตราการสูบบุหรี่ที่ลดลงอย่างมากในช่วงหลายสิบปีมานี้ แต่ดูเหมือนว่าอัตราการลดลงเหล่านี้กำลังชะลอตัวลง นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้สูบบุหรี่ทั้งในประเทศที่พัฒนาแล้วและประเทศกำลังพัฒนาที่ไม่สามารถหรือไม่อยากเลิกบุหรี่โดยใช้วิธีที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมักจะเป็นวิธีที่ไม่ได้ผล ในการช่วยให้คนเลิกบุหรี่ได้”
“การใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อนนั้นใช้หลักการการลดความอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดความอันตรายจากการใช้ยาสูบ” การใช้ผลิตภัณฑ์นิโคตินและยาสูบแบบใหม่จึงเป็นวิธีการช่วยเหลือที่เหมาะสมในการช่วยให้ผู้สูบบุหรี่
สามารถเลิกบุหรี่ได้ นายดูกันกล่าว
More Stories
แนวทางการลดความเสี่ยงในการควบคุมยาสูบ
นิโคตินคืออะไร กับผลกระทบต่อสุขภาพอย่างไร
การเปลี่ยนแปลงตลาดบุหรี่ไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกา ทำให้ส่วนแบ่งทางการตลาดของ Juul และ Vuse ลดลง