แพทย์มาเลเซียสนับสนุน ผู้สูบบุหรี่เป็นประจำควรพิจารณาเปลี่ยนไปใช้บุหรี่ไฟฟ้า

ที่มา: https://www.thesundaily.my/opinion/fda-e-cigarettes-proven-harm-reduced-product-AD8489673

นับเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (US FDA) หลังจากได้ประกาศเมื่อวันที่ 12 ต.ค. ว่าได้อนุญาตให้มีการขายผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้าได้ในอเมริกา

เมื่อมีการแถลงการณ์แบบนี้แล้ว เหล่าผู้จำหน่ายต่างเชื่อว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะเป็นการเปิดโอกาสให้กับกลุ่มคนที่สูบบุหรี่เป็นประจำให้หันมาใช้ผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้าเป็นหนึ่งในทางเลือกของการเลิกบุหรี่และเพื่อป้องกันอันตรายจากสารพิษในบุหรี่

หลังจากการแถลงการณ์ครั้งนี้ FDA กล่าวว่าการอนุญาตให้มีการขายผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้าได้จะเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการสร้างความมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมดได้รับการตรวจสอบและประเมินอย่างเรียบร้อยโดย FDA แล้วก่อนจัดวางจำหน่าย

FDA ยังกล่าวเสริมอีกว่า “ข้อมูลการผลิตแสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้ารสยาสูบนั้นสามารถช่วยให้ผู้บริโภคที่สูบบุหรี่เป็นประจำลดอัตราการสูบบุหรี่แบบเดิมได้เป็นอย่างมากหรือสามารถตัดขาดการสูบบุหรี่แบบเดิมได้เลย เนื่องมาจากการลดการบริโภคสารเคมีที่มีฤทธิ๋เป็นสารเสพติดและอันตรายต่อร่างกายในบุหรี่

ซึ่งข้อมูลนี้ได้ตรงกับการวิจัยล่าสุดของ Jamie Hartmann-Boyce จาก University of Oxford ซึ่งมีข้อมูลจากการวิจัยกว่า 61ฉบับและผู้เข้าร่วมการวิจัยมากกว่า 16,000 คน ที่พบว่า ผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้าที่มีสารนิโคติน เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจาก FDA สามารถช่วยให้ผู้คนเลิกสูบบุหรี่ได้ดีกว่าสารทดแทนอื่น ๆ เช่น หมากฝรั่งหรือแผ่นแปะ นักวิจัยจาก Oxford ได้กล่าวเสริมว่าในการวิจัยเพื่อทดสอบการใช้ผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้าเพื่อเลิกบุหรี่นั้นยังไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้าจะมีผลข้างเคียงเรื่องปัญหาสุขภาพแต่

อย่างใด

นพ.คุมาร์ สุบรามาเนียน ( Kumar Subramanian ) กล่าวว่า “ สำหรับบุคลากรทางการแพทย์แบบผมถ้าคุณเป็นคนที่ไม่ได้สูบบุหรี่อยู่แล้ว คุณก็ไม่ควรเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้า แต่ถ้าคุณเป็นผู้สูบบุหรี่เป็นประจำอยู่แล้ว คุณก็ควรพิจารณาที่จะเปลี่ยนมาใช้มัน ”

ผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้าในมาเลเซียนั้นได้มีการนำมาใช้เพื่อให้กลุ่มคนที่สูบบุหรี่ได้มีการจำกัดปริมาณของสารนิโคตินที่พวกเขาใช้โดยไม่ต้องเสี่ยงกับสารก่อมะเร็งจากการเผาไหม้ของบุหรี่ครั้งแรกในปี 2015

แนวทางการลดอันตรายจากยาสูบหรือ THR มุ้งเน้นไปที่การลดอันตรายต่อสุขภาพของผู้สูบที่ไม่สามารถหยุดการเสพติดนิโคตินจากการสูบบุหรี่ได้ โดยการเชิญชวนให้หันมาใช้ผลิตภัณฑ์ทางเลือกแทน

แม้ว่าจะมีผลิตภัณฑ์ทางเลือกหลากหลายประเภท แต่ข้อมูลชี้ให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้านั้นมีประสิทธิภาพมากที่สุด ข้อมูลล่าสุดจาก Cochrane ได้สรุปไว้ว่า หากมีการใช้ใช้ผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้า ผู้คนมีแนวโน้มที่สามารถเลิกบุหรี่ภายในหกเดือนได้มากกว่าเมื่อเทียบกับการบำบัดโดยใช้นิโคตินทดแทน

การวิจัยนี้เป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญของการตัดสินใจของ FDA และเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนและการวิจัยนี้จะต้องมีบทบาทในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างบุหรี่ไฟฟ้าได้อย่างแน่นอน

ในมาเลเซียนั้นมีการความพยายามในการลดอัตราการสูบบุหรี่ของผู้คนในประเทศมาอย่างยาวนาน นโยบายการใช้ผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้าจะเป็นแนวทางในการช่วยให้ผู้คนได้เลิกสูบบุหรี่ได้ และที่สำคัญจะเป็นปัจจัยสำคัญในการแก้ปัญหาอัตราการสูบบุหรี่ของประชากรโดยรวมในมาเลเซียที่สูงลิ่วได้อีกด้วย