
A heat-not-burn tobacco product technology.Man holding in one hand smoking module before smoking.
ที่มา : https://www.tobaccoasia.com/news/new-bat-study-switching-to-heating-products-similar-impact-a/
งานวิจัยใหม่จาก BAT ( British American Tobacco ) เผยแพร่ในวารสารทางการแพทย์ Internal and Emergency Medicine เป็นหลักฐานชี้ให้เห็นว่าผู้สูบบุหรี่ที่เปลี่ยนจากการสูบบุหรี่ไปใช้ glo (ผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อนของ BAT) ในชีวิตประจำวันจริง ๆ นั้นจะสามารถลดการสัมผัสกับสารพิษและตัวชี้วัดที่อาจก่อให้เกิดอันตรายเกี่ยวกับโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่หลายชนิด เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่สูบบุหรี่อย่างต่อเนื่อง
การศึกษาวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบสุ่มที่มีการควบคุมตลอดเป็นระยะเวลา 1 ปี ผู้เข้าร่วมเป็นผู้สูบบุหรี่ที่อาศัยอยู่ในสหราชอาณาจักรมีอายุระหว่าง 23-55 ปี มีสุขภาพทั่วไปสมบูรณ์แข็งแรงดี และในกลุ่มผู้เข้าร่วมการทดลองครั้งนี้มีทั้งผู้ที่อยากเลิกบุหรี่และไม่อยากเลิกบุหรี่ นอกจากนี้ยังให้ผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่เข้าร่วมการทดลองด้วย
โดยผู้สูบบุหรี่ที่ไม่ได้ตั้งใจจะเลิกสูบบุหรี่จะได้รับการเลือกสุ่มให้สูบบุหรี่ต่อไปหรือเปลี่ยนไปใช้ glo เพียงอย่างเดียว
ส่วนผู้สูบบุหรี่ที่ต้องการเลิกสูบบุหรี่จะได้รับการบำบัดด้วยนิโคตินทดแทนและเข้ารับการปรึกษาด้านการเลิกบุหรี่
ส่วนผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่ ก็ให้เข้าร่วมเป็นกลุ่มควบคุมแบบไม่ใช้ยาสูบหรือผลิตภัณฑ์นิโคตินใด ๆ
การศึกษานี้ออกแบบมาเพื่อสำรวจศักยภาพในการลดความเสี่ยงจากการสูบบุหรี่เมื่อเปลี่ยนมาใช้ glo ในชีวิตจริง
มากกว่าในสภาพแวดล้อมที่มีการควบคุมอย่างเข้มงวด เพราะสิ่งที่ผู้เข้าร่วมถูกควบคุมให้ทำคือการไปคลินิกทุกเดือน
เพื่อเก็บตัวอย่างเลือด ปัสสาวะ และการตรวจวัดอื่น ๆ เพื่อตรวจสอบดัชนีชี้วัดการสัมผัสจากการได้รับสารพิษจากควันบุหรี่บางชนิด และตรวจสอบดัชนีชี้วัดที่อาจก่อให้เกิดอันตราย
ผลศึกษาเบื้องต้น 6 เดือน (จากระยะเวลาการศึกษาทั้งหมด 12 เดือน) แสดงให้เห็นว่าผู้ที่เปลี่ยนไปใช้ glo อย่างสมบูรณ์ จะมีการเปลี่ยนแปลงของดัชนีชี้วัดการสัมผัส* และ ตัวชี้วัดที่อาจก่อให้เกิดอันตราย** หรือที่เราเรียกว่า ตัวชี้วัดของอันตรายที่อาจเกิดขึ้น อย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับผู้ที่สูบบุหรี่อย่างต่อเนื่อง โดยผู้ที่เลิกสูบบุหรี่มวนและเปลี่ยนมาใช้ glo เพียงอย่างเดียว จะมี Biomarkers หรือตัวบ่งชี้ทางชีวภาพในการเกิดโรคต่าง ๆ ลดลงจนใกล้เคียงกับผู้ที่เลิกสูบบุหรี่ได้แบบถาวรดังนี้
• ตัวบ่งชี้ทางชีวภาพของความเสี่ยงโรคมะเร็งปอด ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
• ตัวบ่งชี้การอักเสบที่บอกถึงความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด (CVD) และโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ในการ ตรวจปริมาณของเม็ดเลือดขาว ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
• HDL คอเลสเตอรอล (ไขมันชนิดดี) ที่เกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด CVD มีภาวะที่ดีขึ้น
• ตัวชี้วัดสองชนิดหลักที่สำคัญของสุขภาพปอดมีภาวะที่ดีขึ้น
• ตัวบ่งชี้ที่สำคัญของความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน (ภาวะความไม่สมดุลของการเกิดอนุมูลอิสระ และกระบวนการ
ป้องกันอันตรายจากอนุมูลอิสระของร่างกาย) ซึ่งเป็นกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับโรคที่เกี่ยวกับการสูบบุหรี่หลายโรคไม่ว่า จะเป็น โรคหัวใจและหลอดเลือด และความดันโลหิตสูง
ดร. David O’Reilly ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของ BAT กล่าวว่า ผลวิจัยดังกล่าวเป็นผลลัพธ์ที่น่าตื่นเต้นมาก เนื่องจากมันช่วยให้เราเข้าใจถึงศักยภาพในการลดความเสี่ยงจากการสูบบุหรี่ด้วยการเปลี่ยนไปใช้ glo ช่วยให้ผู้สูบบุหรี่สามารถลดการสัมผัสกับสารพิษบางชนิดและยังช่วยลดการเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ได้อีกด้วย แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าผลิตภัณฑ์นี้ปราศจากความเสี่ยงและไม่ทำให้คุณเสพติดมัน
การศึกษาวิจัยนี้จะเสร็จสมบูรณ์ภายในสิ้นปี 2564 และเราจะได้รู้กันว่า glo จะเป็นตัวช่วยลดการสัมผัสกับสารพิษและดัชนีชี้วัดที่อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ตลอดระยะเวลาของการศึกษาหรือไม่
*Biomarkers of exposure
**Indicators of potential harm / Biomarkers of potential harm
More Stories
แนวทางการลดความเสี่ยงในการควบคุมยาสูบ
นิโคตินคืออะไร กับผลกระทบต่อสุขภาพอย่างไร
การเปลี่ยนแปลงตลาดบุหรี่ไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกา ทำให้ส่วนแบ่งทางการตลาดของ Juul และ Vuse ลดลง