
ที่มา: https:www.hopkinsmedicine.org/health/wellness
5 ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการใช้บุหรี่ไฟฟ้า ที่คุณต้องรู้
หากคุณกำลังคิดที่จะเลิกบุหรี่อยู่ล่ะก็ คุณไม่ใช่คนเดียวที่คิดอยากจะเลิก
เพราะจากสถิติพบว่าผู้สูบบุหรี่ถึง 7 ใน 10 คน ต้องการที่จะเลิกสูบบุหรี่
โดยการสูบบุหรี่นั้นส่งผลเสียต่ออวัยวะแทบทุกส่วนในร่างกาย เกือบ 1 ใน 3 ของการเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ
มีสาเหตุมาจากการสูบบุหรี่และควันบุหรี่มือสอง การเลิกสูบบุหรี่จึงสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณสามารถทำได้เพื่อสุขภาพของตัวเอง
เราเชื่อว่าหลายคนที่อยากเลิกบุหรี่อาจมีความคิดที่จะหันไปพึ่งบุหรี่ไฟฟ้าเป็นตัวช่วย แต่จะแน่ใจได้ยังไงว่าการใช้บุหรี่ไฟฟ้าจะส่งผลดีต่อคุณมากกว่าการสูบบุหรี่แบบเดิม และจะช่วยให้คุณเลิกบุหรี่ได้อย่างเด็ดขาด
บทความนี้ น.พ. Michael Blaha ผู้อำนวยการด้านการวิจัยทางคลินิกที่ศูนย์ป้องกันโรคหัวใจซิกคาโรเนของจอห์นส์ ฮอปคินส์ (Johns Hopkins Ciccarone Center for the Prevention of Heart Disease)
จะมาเปิดเผยข้อมูลด้านสุขภาพเกี่ยวกับการใช้บุหรี่ไฟฟ้าให้เราทราบกัน
1: การใช้บุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายน้อยกว่าการสูบบุหรี่ แต่ไม่ได้ปลอดภัย 100%
บุหรี่มวนแบบเดิมนั้นใช้ไฟในการเผาไหม้ตัวยาสูบ ก่อให้เกิดสารเคมีกว่า 7,000 ชนิด โดยสารเคมีจำนวนมากในนั้นเป็นสารเคมีที่เป็นพิษ ในขณะที่บุหรี่ไฟฟ้าใช้การให้ความร้อนกับนิโคตินที่สกัดมาจากยาสูบและสารเคมี ปรุงแต่งด้วยรสชาติต่าง ๆ เพื่อสร้างไอละออง แม้เราจะยังไม่รู้แน่ชัดว่าในไอละอองบุหรี่ไฟฟ้ามีสารเคมีอะไรบ้าง แต่ น.พ. Michael Blaha ได้กล่าวไว้ว่า “แทบจะไม่ต้องสงสัยเลยว่า บุหรี่ไฟฟ้าจะทำให้ผู้สูบบุหรี่ได้สัมผัสกับสารเคมีที่เป็นพิษน้อยกว่าการสูบบุหรี่แบบเดิม“
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนคงสงสัยว่าหากบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าการสูบบุหรี่จริง ทำไมถึงมีข่าวผู้เสียชีวิตจากบุหรี่ไฟฟ้าในต่างประเทศ? ประเด็นเรื่องการระบาดของอาการบาดเจ็บของปอดที่เกี่ยวข้องกับการใช้บุหรี่ไฟฟ้า จนนำไปสู่การเสียชีวิตของผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าในอเมริกานั้น วันที่ 21 ม.ค. 2563 ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (Centers for Disease Control and Prevention : CDC) ได้ออกมายืนยันว่าการเสียชีวิตของผู้ป่วยที่เกิดจากการบาดเจ็บของปอดที่เกี่ยวข้องกับการใช้บุหรี่ไฟฟ้าหรือโรคอีวาลี่ ( EVAVI ) กว่า 60 รายนั้น “เคสเหล่านี้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นกับผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่ทำการดัดแปลงอุปกรณ์บุหรี่ไฟฟ้า และผู้ที่ใช้น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าเถื่อนไม่ได้มาตรฐานมีการดัดแปลงสูตรแต่งเติมส่วนผสมโดยเฉพาะสารเตตระไฮโดรคานนาบินอล (tetahydrocannabinol ) หรือสาร THC” น.พ. Michael Blaha อธิบาย
นอกจากสาร THC แล้ว CDC ยังระบุว่าวิตามินอี อะซีเทต ( E ACETATE ) ก็เป็นอีกหนึ่งสารเคมีที่น่ากังวลในหมู่ผู้ป่วยโรคอีวาลี่ เพราะวิตามินอี อะซีเทตนั้น เป็นสารเพิ่มความหนืดที่กลุ่มผู้ใช้มักใส่ลงน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าที่มีสาร THC โดย CDC พบสารนี้ในตัวอย่างของเหลวจากปอดของผู้ป่วยโรคอีวาลี่ทุกตัวอย่าง และได้แนะนำให้ผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าปฏิบัติดังนี้
• อย่าใช้ผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้าที่มีสาร THC
• หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่รู้แหล่งผลิตและที่มา
• อย่าดัดแปลงหรือเติมสารอื่น ๆ ลงในบุหรี่ไฟฟ้า
2: ผลการวิจัยเหมือนจะบอกว่า “การใช้บุหรี่ไฟฟ้าไม่ดีต่อหัวใจและปอด”
ทั้งบุหรี่มวนแบบเดิมและบุหรี่ไฟฟ้าต่างมีนิโคตินเป็นสารทำปฏิกิริยาหลัก โดยนิโคตินนั้นเป็นสารที่มีฤทธิ์เสพติดสูง ที่จะทำให้คุณรู้สึกอยากสูบบุหรี่และจะเกิดอาการถอนนิโคตินหากไม่ได้สูบมัน และนิโคตินยังเป็นสารที่มีความเป็นพิษ ทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้นและทำให้ร่างกายหลั่งสารอะดรีนาลีน ส่งผลให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นจึงเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดอาการหัวใจวาย
นอกจากนิโคตินแล้ว การใช้บุหรี่ไฟฟ้ามีอะไรที่ส่งผลเสียต่อร่างกายอีกบ้าง ?
ต้องเกริ่นก่อนว่าผู้คนสูบบุหรี่มวนมานาน เราจึงมีผลการวิจัยมากมายที่บอกถึงข้อเสียของการสูบบุหรี่มวนต่อร่างกาย แต่สำหรับผลเสียของการใช้บุหรี่ไฟฟ้าต่อร่างกายนั้น ปัจจุบันนี้เรายังไม่ทราบถึงผลลัพธ์ของการสูบบุหรี่ไฟฟ้าในระยะยาว รวมไปถึงสารเคมีที่มีอยู่ในไอละอองของบุหรี่ไฟฟ้าว่าจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาวมากแค่ไหน แต่ น.พ. Michael Blaha ก็ได้กล่าวเตือนไว้ว่า “ มีข้อมูลใหม่ ๆ บ่งบอกว่าการใช้บุหรี่ไฟฟ้าอาจมีความเกี่ยวพันกับโรคปอดเรื้อรังและโรคหอบหืด และยังมีความเชื่อมโยงระหว่างการใช้บุหรี่ไฟฟ้าควบคู่กับการสูบบุหรี่และโรคหัวใจและหลอดเลือดอีกด้วย คุณกำลังทำให้ตัวเองได้สัมผัสกับสารเคมีชนิดต่าง ๆ มากมาย ซึ่งเรายังไม่มีความเข้าใจและมันอาจไม่ปลอดภัย”
และยังกล่าวอีกว่า
“ผู้คนจะต้องเข้าใจว่าบุหรี่ไฟฟ้าก็อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้เช่นกัน”
3: บุหรี่ไฟฟ้าก็ทำให้คนติดได้พอ ๆ กับบุหรี่มวน
อย่างที่เราบอกไปในข้อที่แล้วว่าทั้งบุหรี่ไฟฟ้าและบุหรี่แบบเดิมล้วนมีนิโคตินทั้งคู่ มีการวิจัยบ่งบอกว่านิโคตินอาจมีฤทธิ์ทำให้เสพติดได้พอ ๆ กับเฮโรอีนและโคเคน โดย น.พ. Michael Blaha ได้กล่าวว่า “ที่ร้ายไปกว่านั้นคือมีผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมากที่ได้รับนิโคตินมากกว่าตอนที่ใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบซะอีกเพราะผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าสามารถหาซื้อน้ำยาที่มีความเข้มข้นกว่าปกติได้ และยังสามารถดัดแปลงบุหรี่ไฟฟ้า เพิ่มขนาดโวลต์ให้สามารถสูบไอละอองได้แรงขึ้น”
4: บุหรี่ไฟฟ้าไม่ใช่เครื่องมือช่วยเลิกบุหรี่ที่ดีที่สุด
มีการนำเสนอข้อมูลมากมายว่าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นเครื่องมือช่วยในการเลิกบุหรี่
แต่ทั้งในสหรัฐอเมริกาและในประเทศไทย บุหรี่ไฟฟ้าก็ยังไม่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาให้เป็นอุปกรณ์ช่วยเลิกบุหรี่ และเมื่อเร็วๆ นี้มีการศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งที่พบว่าผู้สูบบุหรี่ส่วนใหญ่ที่ตั้งใจจะใช้บุหรี่ไฟฟ้าในการเลิกบุหรี่และเลิกอาการเสพติดนิโคตินนั้นกลับยังสูบบุหรี่แบบเดิมควบคู่ไปกับการใช้บุหรี่ไฟฟ้า ดังนั้น CDC จึงได้แนะนำให้ผู้ใหญ่ที่อยากลองใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพื่อเลิกบุหรี่ ชั่งน้ำหนักความเสี่ยงต่อสุขภาพ
ของตัวเองกับประโยชน์ที่จะได้รับ และลองพิจารณาทางเลือกอื่นๆ ในการเลิกบุหรี่ที่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
5: คนรุ่นใหม่กำลังติดนิโคติน
ตั้งแต่ พ.ศ. 2558 บุหรี่ไฟฟ้ากลายเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชนในสหรัฐอเมริกา
มากกว่าผลิตภัณฑ์ยาสูบรูปแบบอื่น ๆ ที่เคยมีมา โดยนายแพทย์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกาได้รายงานว่าการ
ใช้บุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มนักเรียนมัธยมต้น และมัธยมปลายนั้น เพิ่มสูงถึงร้อยละ 900 และร้อยละ 40 ของเยาวชนที่ไม่เคยสูบบุหรี่แบบไหนมาก่อน
และจากข้อมูลของ น.พ. Michael Blaha พบว่ามี 3 เหตุผลหลัก ๆ ที่อาจทำให้บุหรี่ไฟฟ้ากลายเป็นที่นิยมให้หมู่วัยรุ่น
1. วัยรุ่นส่วนใหญ่เชื่อว่าการใช้บุหรี่ไฟฟ้านั้นอันตรายน้อยกว่าการสูบบุหรี่
2. ในอเมริกา บุหรี่ไฟฟ้ามีราคาต่ำกว่าบุหรี่แบบเดิมเมื่อเทียบต่อการใช้งานหนึ่งครั้ง
3. น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ามีหลายรสชาติให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นรสขนม รสผลไม้ ดึงดูดใจวัยรุ่นมากกว่า
ที่สำคัญทั้งผู้ใหญ่และวัยรุ่นต่างก็ชื่นชอบที่บุหรี่ไฟฟ้าไม่มีควันเพราะทำให้พวกเขาไม่มีกลิ่นบุหรี่เหม็นติดตัว
โดย น.พ. Michael Blaha ได้กล่าวไว้ว่า
“สิ่งที่ผมคิดว่าน่ากังวลที่สุดเกี่ยวกับเรื่องที่การใช้บุหรี่ไฟฟ้าได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นก็คือคนที่ไม่เคยคิดจะสูบบุหรี่โดยเฉพาะอย่างเยาวชนได้หันมาใช้บุหรี่ไฟฟ้า”
“เพราะหากคุณจะเปลี่ยนจากการสูบบุหรี่แบบเดิมมาใช้บุหรี่ไฟฟ้าก็เป็นเรื่องหนึ่ง
แต่หากคุณจะเริ่มบริโภคนิโคตินด้วยการใช้บุหรี่ไฟฟ้านั้นก็เป็นคนละเรื่องเลย
เพราะมันอาจจะนำไปสู่การใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบเดิมในภายหลังด้วย”
ถ้าอยากเลิกบุหรี่ต้องทำไง?
หลายคนทราบดีอยู่แล้วว่า พฤติกรรมการสูบบุหรี่นั้นอาจนำไปสู่โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดและโรคมะเร็ง ดังนั้นยิ่งคุณเลิกสูบบุหรี่ได้เร็วเท่าไหร่ร่างกายของคุณก็จะยิ่งฟื้นตัวได้ดีเท่านั้น และหากคุณต้องการเลิกสูบบุหรี่คุณอาจลองเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์เกี่ยวกับเข้าร่วมโครงการเลิกบุหรี่หรือการใช้เครื่องมือช่วยเลิกบุหรี่
เราขอเอาใจช่วยให้คุณเลิกบุหรี่ได้สำเร็จ
More Stories
แนวทางการลดความเสี่ยงในการควบคุมยาสูบ
นิโคตินคืออะไร กับผลกระทบต่อสุขภาพอย่างไร
การเปลี่ยนแปลงตลาดบุหรี่ไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกา ทำให้ส่วนแบ่งทางการตลาดของ Juul และ Vuse ลดลง