Tobacco Harm Reduction Network (Thailand)

รวมบทความ ข่าวสาร งานวิจัย เกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ สำหรับผู้ที่ต้องการลดสารพิษจากการสูบบุหรี่แบบมวน และลดมลพิษให้กับคนรอบข้าง

การเลือกตั้งในนิวซีแลนด์ปี 2563 : Peters ให้ความเห็นว่าบุหรี่หนึ่งซอง ‘ไม่ควรมีราคาเกิน 20 ดอลลาร์’ และผู้สูบบุหรี่และคนจน ‘ถูกเอาเปรียบ’

การใช้บุหรี่ไฟฟ้าช่วยเลิกบุหรี่ได้จริง
16 กันยายน 2563 Mark Quinlivan

Winston Peters ได้ออกมากล่าวประณามอีกครั้งถึง “ความเสแสร้งอย่างน่ารังเกียจ” ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อให้มีการออกเสียงประชามติเรื่องกัญชาไปพร้อม ๆ กับการตั้งเป้าหมายว่าจะทำให้ประเทศปลอดควันบุหรี่ภายในปี 2568 โดยเขากล่าวว่าบุหรี่ซองหนึ่งไม่ควรจะมีราคาเกิน 20 ดอลลาร์

รองนายกรัฐมนตรีผู้นี้ได้กล่าวไว้เมื่อสัปดาห์ก่อนว่า เขาไม่ทราบว่าชาวนิวซีแลนด์จะทนรับสภาพ “ความเสแสร้งอย่างน่ารังเกียจ” นี้ไปได้อีกนานเท่าใด

เมื่อผู้ฟังรายการ Magic Talk รายหนึ่งถามความเห็นเขาเมื่อวันพุธว่า เขาจะดำเนินการอย่างใดหรือไม่เกี่ยวกับการเก็บภาษียาสูบ Peters ยิ่งกล่าวเน้นย้ำความเห็นที่เขาได้ให้ไว้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เขากล่าวว่า “จุดมุ่งหมายนั้นต้องการให้บรรลุวิถีทางหนึ่ง แต่ผลลัพธ์กลับเป็นอีกอย่าง”

“ผู้คน โดยเฉพาะคนจน ๆ และผู้สูบบุหรี่กำลังถูกเอาเปรียบเต็มประตู แล้วผมตั้งใจจะดำเนินการอย่างใดเกี่ยวกับเรื่องนี้หรือเปล่าน่ะหรือ แน่นอนผมตั้งใจจะทำแน่”

หัวหน้าพรรค New Zealand First กล่าวว่าบุหรี่ไม่ควรมีราคาเกินซองละ 20 ดอลลาร์

เขากล่าวกับพิธีกรรายการ Magic Talk คือนาย Peter Williams ว่า “ทำไมน่ะหรือ เพราะตอนนี้ ประมาณ 86% ของราคาบุหรี่คือภาษี นี่มันการปล้นการกลางวันแสก ๆ โดยรัฐบาลหลาย ๆ รัฐบาลที่ผ่านมาซึ่งต่างก็พูดว่ามีเป้าหมายจะทำให้ประเทศปลอดควันบุหรี่ภายในปี 2568 แต่ขณะเดียวกันใบแจ้งหนี้ที่รัฐบาลเรียกเก็บก็แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้มีแผนดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง”

“นี่มันเสแสร้งอย่างน่ารังเกียจ คุณอยากทราบนโยบายของผมใช่ไหม ตอนแรกผมก็ไม่ได้ตั้งใจจะกล่าวถึงนโยบายของผมหรอก แต่ตอนนี้ก็ขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่า ราคาบุหรี่หนึ่งซองไม่ควรเกิน 20 ดอลลาร์”

ข้อมูลจากการสำมะโนประชากรเมื่อปี 2561 แสดงให้เห็นว่าสัดส่วนของผู้สูบบุหรี่เป็นประจำที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป ลดลงเหลือ 13.2% จาก 15.1% ในปี 2556

“รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะลดภาระใหญ่หลวงจากการเสียชีวิตและโรคภัยเนื่องจากการสูบบุหรี่” คือข้อความที่ประกาศไว้บนหน้าเว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุข “รัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายระยะยาวที่จะลดความชุกของการสูบบุหรี่และการเข้าถึงได้ง่ายของยาสูบให้อยู่ในระดับต่ำที่สุด และทำให้นิวซีแลนด์เป็นประเทศปลอดควันบุหรี่ให้ได้ภายในปี 2568”

รัฐบาลกล่าวว่าการปลอดควันบุหรี่ภายในปี 2568 จะเกิดขึ้นได้ถ้าหากเด็ก ๆ ได้รับการปกป้องให้พ้นจากการทำตลาดของยาสูบ การลดอุปสงค์และอุปทานของยาสูบ และให้ความช่วยเหลือผู้ที่ต้องการเลิกสูบ นิวซีแลนด์เริ่มใช้ซองบุหรี่แบบเรียบสีน้ำตาลและเขียวในปี 2561

Peters กล่าวว่านโยบายของเขาไม่ใช่ “การโฆษณา” การสูบบุหรี่ แต่เป็นการโฆษณาผลิตภัณฑ์ทางเลือกมากกว่า

“รัฐบาลควรไปหาทางลดตรงอื่นดีกว่า นี่คือการเอาเปรียบประชาชน โดยเฉพาะคนจน ๆ ที่บางคนต้องทำงานหารายได้พิเศษเพิ่มอีก และความสุขที่หาพอหาได้ในชีวิตคือการสูบ”

“นี่ไม่ใช่การโฆษณาการสูบบุหรี่ แต่เป็นการโฆษณาทางเลือกที่นอกเหนือจากการสูบบุหรี่ ผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้าใหม่ ๆ เหล่านี้ ที่มีมาจากประเทศต่าง ๆ เช่น ญี่ปุ่น กำลังช่วยลดการสูบยาสูบทั่วโลกได้อย่างมากมาย”

เขากล่าวว่าผลิตภัณฑ์เหล่านั้นควรจะปลอดภาษีอีกด้วย

“ถ้าเราตั้งใจจะทำให้คนเหล่านั้นเลิกสูบยาสูบและบุหรี่อย่างแท้จริงแล้วล่ะก็ เราควรต้องมองว่าผลิตภัณฑ์ทางเลือกมีความปลอดภัยกว่ามาก และเห็นว่าแผนและยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลแล้วรัฐบาลเล่าดำเนินการมานั้นมันไม่ได้ผล”

ในช่วงก่อนหน้านี้ของปี รัฐบาลได้ประกาศแผนที่จะควบคุมการใช้บุหรี่ไฟฟ้า โดยจะห้ามมิให้มีการสนับสนุนทางการตลาดจากผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้าและการทำตลาดผลิตภัณฑ์บุหรี่ไฟฟ้า ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป

นิวซีแลนด์ได้ขึ้นภาษีสรรพสามิตยาสูบมาทุกปีนับตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งทำให้ราคาบุหรี่ซองละ 20 มวน เพิ่มขึ้นจากซองละ 11 ดอลลาร์ เป็น 33 ดอลลาร์เมื่อเดือนมกราคม 2563 ที่รัฐดำเนินมาตรการเหล่านี้ก็เพื่อให้คนไม่อยากสูบบุหรี่ และบรรลุเป้าหมายการเป็นประเทศปลอดควันบุหรี่ภายในปี 2568

Click to rate this post!
[Total: 1 Average: 5]