
เมื่อเดือนเมษาที่ผ่านมาคณะกรรมการสภาผู้แทนราษฎรของออสเตรเลียได้ตีพิมพ์รายงานเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า โดยคณะกรรมการส่วนใหญ่ (เสียง 5 ต่อ 3) เห็นว่าควรห้ามซื้อขายและใช้บุหรี่ไฟฟ้าที่มีนิโคตินในออสเตรเลียต่อไป
ในขณะเดียวกันทางฝั่งเสียงข้างน้อยได้ตีพิมพ์รายงานสรุปว่าการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในกลุ่มผู้สูบบุหรี่ที่ได้พยายามเลิกแล้วแต่ไม่สำเร็จน่าจะช่วยชีวิตผู้คนได้นับพันนับหมื่น ดังนั้นบุหรี่ไฟฟ้าจึงควรเป็นสินค้าที่ผู้สูบบุหรี่ชาวออสเตรเลียสามารถซื้อหาได้
ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมาออสเตรเลียนับว่าเป็นหัวหอกในการออกนโยบายที่มุ่งลดจำนวนผู้เสียชีวิตและอันตรายที่เกิดจากยาสูบ อย่างไรก็ตาม ทุกปียังมีชาวออสเตรเลียชีวิตกว่า 19,000 ราย เนื่องจากโรคร้ายที่เกิดจากยาสูบ
อย่างไรก็ตามในปี 2553 หลังจากที่บุหรี่ไฟฟ้าเป็นที่นิยมแพร่หลายในประเทศอังกฤษและอเมริกา ทำให้อัตราผู้สูบบุหรี่ในทั้งสองประเทศลดลงต่ำอย่างรวดเร็ว ในขณะที่อัตราการสูบบุหรี่ในออสเตรเลียกลับคงที่ในช่วงปี 2556-2559 (เพิ่มขึ้นเสียด้วยซ้ำในบางรัฐ) ทำให้ตอนนี้อัตราการสูบบุหรี่ในอังกฤษและสหรัฐฯ อยู่ในระดับต่ำกว่าออสเตรเลียเป็นครั้งแรก
ปัจจุบันออสเตรเลียเลือกที่จะใช้นโยบายการขึ้นราคาบุหรี่จนราคาบุหรี่ในประเทศอยู่ในระดับที่สูงที่สุดในโลกอยู่แล้ว แต่อัตราผู้สูบบุหรี่ในกลุ่มรายได้น้อยกลับยังสูงขึ้นกว่าเดิม จึงเป็นเรื่องน่าคิดว่าการขึ้นราคาบุหรี่ต่อไปนั้นเป็นการควบคุมที่เหมาะสมหรือไม่ หากควบคุมไม่ได้ เห็นสมควรแล้วหรือที่รัฐจะยังคงห้ามซื้อขายบุหรี่ไฟฟ้าต่อไปในเมื่อมันมีความเสี่ยงน้อยกว่าบุหรี่มวนและยังเป็นเครื่องมือช่วยเลิกบุหรี่ได้
ต้องขอบคุณคณะกรรมการเสียงข้างน้อยทั้ง 3 รายนั้น ซึ่งก็คือ เทรนต์ ซิมเมอร์แมน, ทิม วิลสัน และแอนดรูว์ เลมมิง ที่มีความกล้าที่จะพยายามช่วยชีวิตผู้สูบบุหรี่และป้องกันความทุกข์ทรมานเนื่องจากการสูบบุหรี่
อ่านข่าวต้นฉบับที่ Opposition to e-cigs is running out of puff
https://www.spectator.co.uk/2018/04/opposition-to-e-cigs-is-running-out-of-puff/
More Stories
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ควรให้ความสำคัญกับการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้ามากกว่าการห้ามสูบบุหรี่
แนวทางการลดความเสี่ยงในการควบคุมยาสูบ
FDA เปิดตัวเว็บไซต์ให้ความรู้เพื่อการศึกษาเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า