การแบนบุหรี่ไฟฟ้าเป็นวิสัยทัศน์ที่คับแคบ และรัฐบาลอินเดียต้องทบทวนใหม่อีกครั้ง

อินเดียต้องตระหนักว่าการลดอันตรายเป็นเป้าหมายที่คุ้มค่าที่จะผลักดัน และต้องทำให้ได้ทุกวิถีทาง

ในตุลาคม 2022 จะครบรอบ 3 ปีที่อินเดียผลีผลามและหลับหูหลับตาแบนบุหรี่ไฟฟ้าอย่างไร้ประสิทธิภาพ ผลักไสผู้คน และสร้างผลเสียมากกว่าผลดี
แท้จริงแล้ว ในประเทศที่มีประชากรมากกว่าพันล้านคนอย่างประเทศอินเดีย กระทรวงสวัสดิการสุขภาพและครอบครัว ควรหาวิธีในการลดความสูญเสียด้านทรัพยากรบุคคลและเศรษฐกิจโดยการลดความเสี่ยงจากการใช้ยาสูบมากกว่า

ผู้มีอำนาจในกระทรวงต้องตระหนักว่าการแบนบุหรี่ไฟฟ้านั้นไร้ประโยชน์ และมีอีกหลายประเด็นที่จำเป็นต้องพิจารณามากกว่าการปล่อยเสรีหรือควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าในอินเดีย แต่ควรพิจารณาใน แง่มุมของมนุษยธรรม, ระดับความเสี่ยงของมาตรการ ไปพร้อมกับการรวบรวมข้อมูลในด้านความปลอดภัยก่อนประกาศใช้จริง แต่สิ่งนี้กลับไม่เคยเกิดขึ้นในอินเดียเลยตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ในขณะที่ประเทศอื่นๆ บนโลกกำลังทำตามขั้นตอนที่ถูกต้องนี้อยู่

น่าเศร้าที่อินเดียไม่เปลี่ยนแปลง และไม่มีแม้แต่ความเคลื่อนไหว แล้วมันเกิดอะไรขึ้นในอินเดีย?

จากตัวเลขที่ปรากฏไม่ได้สนับสนุนความสำเร็จของนโยบายที่ได้ประกาศใช้ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ชาวอินเดียยังต้องแบกรับภาระและปัญหาเกี่ยวกับยาสูบอย่างมหาศาล ซ้ำร้าย เกือบสามส่วนของประชากรสามารถใช้ยาสูบแบบต่างๆ ได้อย่างอิสระ ส่งผลให้มีชาวอินเดียกว่า 1,400,000 คนต้องเสียชีวิต โดยจำนวนผู้เสียชีวิตเกือบเท่าประชากรเมือง Ranchi หรือ Jabalpur ทั้งหมดเลยทีเดียว นอกจากนี้องค์การอนามัยโลกหรือ WHO ชี้ว่ามีการสูญเสียเป็นตัวเลขมหาศาลกว่า 27,500 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี จากโรคที่เกี่ยวข้องกับยาสูบในคนที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป

มีกฎหมายนับไม่ถ้วนที่กระทรวงสาธารณสุขได้ริเริ่มเพื่อป้องกันหรือยับยั้งไม่ให้ประชาชนสูบบุหรี่ แต่สิ่งที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดคือการตัดสินใจที่ไม่สมเหตุสมผลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมบุหรี่ไฟฟ้า

เพราะฉะนั้น นี่เป็นเรื่องสำคัญสำหรับอินเดีย ที่จะต้องทำความเข้าใจว่าจุดไหนคือจุดที่ผิดพลาดเพราะมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ทั่วโลกระบุว่าการใช้บุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าการสูบบุหรี่มวนอย่างมีนัยยะสำคัญ เพราะบุหรี่ไฟฟ้าไม่มีการเผาไหม้ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบและทำลายสุขภาพ

นอกจากนี้ บุหรี่ไฟฟ้ายังเป็นอุปกรณ์ที่ทำให้ของเหลวที่มีนิโคตินระเหยกลายเป็นไอและสูดรับเข้าไปในร่างกาย ซึ่งปัจจุบันหลักฐานการศึกษาเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าไม่ได้ระบุว่ามันปราศจากความเสี่ยง แต่ระบุว่าผู้สูบบุหรี่มวนที่เปลี่ยนไปใช้บุหรี่ไฟฟ้าอาจได้รับผลกระทบด้านลบน้อยกว่ามาก และมีสุขภาพที่ดี มีอายุยืนยาวมากกว่า

นี่เป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สำคัญอย่างยิ่งที่อินเดียยังคงเพิกเฉยต่อความเสี่ยงของตัวเอง และยังคงเลือกที่จะปล่อยให้ความเข้าใจผิดนี้ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง หากพิจารณาจากงานวิจัยของ Society for Research on Nicotine and Tobacco (SRNT) หน่วยงานชั้นนำของโลกด้านการวิจัยยาสูบ ได้กล่าวไว้อย่างแน่วแน่ว่าการเลือกใช้บุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายน้อยกว่า และเป็นเครื่องมือในการเลิกบุหรี่ที่มีประสิทธิภาพ งานวิจัยนี้อ้างอิงจากผลการทดลองและข้อมูลทางวิทยาศาสตร์จากทั่วโลก และได้รับการยอมรับจากอดีตประธานของ SRNT ถึง 15 คน ที่ล้วนแล้วแต่เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียง ซึ่งคุณจะมองข้ามและบอกว่าพวกเขาไม่มีความรู้ในเรื่องนี้ไม่ได้โดยงานวิจัยนี้กล่าวว่าการโน้มน้าวให้ผู้สูบบุหรี่ปัจจุบันเปลี่ยนมาใช้บุหรี่ไฟฟ้า ควรที่จะต้องเป็นหนึ่งในนโยบายที่นำมาใช้เพื่อควบคุมปริมาณการใช้ยาสูบทั่วโลก

ประโยชน์ที่แท้จริงของการใช้บุหรี่ไฟฟ้า ตามการทดลองทางการแพทย์ของทั่วโลกที่แสดงให้เห็นคือ การกระตุ้นให้เกิดความอยากเลิกบุหรี่มากกว่าการบำบัดโดยใช้นิโคตินทดแทนแบบดั้งเดิม เช่น การใช้หมากฝรั่ง และแผ่นแปะ ถึงสองเท่า ไม่เพียงแค่นั้น บุหรี่ไฟฟ้ายังเกี่ยวข้องกับการลดลงของอัตราการขายบุหรี่มวนทั่วโลก หรือพูดง่ายๆ ว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการเลิกบุหรี่มวนนั่นเอง

ในสหราชอาณาจักรได้มีการแนะนำให้ผู้สูบบุหรี่หันมาใช้บุหรี่ไฟฟ้า โดยระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ (The National Health Service – NHS) ในประเทศอังกฤษได้ให้ข้อมูลอย่างชัดเจนว่าผู้สูบบุหรี่ส่วนมากได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับความเสี่ยงที่ต่ำกว่าของบุหรี่ไฟฟ้า เมื่อเปรียบเทียบกับการสูบบุหรี่มวน

เพราะฉะนั้น อินเดียควรดำเนินการสื่อสารด้านสาธารณสุขที่ถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์เช่นนี้

แต่สิ่งที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบันคือ ข้อถกเถียงเรื่องยาสูบในอินเดียกำลังหลงทางระหว่างการสื่อสารที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และการไม่สื่อสาร ดังนั้นรัฐบาลควรเขียนกฎระเบียบนี้ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง หากคุณเป็นคนที่ไม่สูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์นิโคตินทุกชนิด เป็นเรื่องง่ายมากที่คุณจะเข้าใจ และหากคุณกำลังพยายามที่จะเลิกบุหรี่ และยังไม่สามารถทำได้ คุณสามารถลดอันตรายของการสูบบุหรี่มันได้ง่ายๆ โดยการเปลี่ยนมาใช้ตัวเลือกที่อันตรายน้อยกว่าสิ่งที่มีอยู่ เช่น บุหรี่ไฟฟ้า, สนูส หรือผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบให้ความร้อน (HTPs)

ดังนั้น สิ่งที่จำเป็นที่สุดในชั่วโมงนี้คือการแยกยาสูบแบบเผาไหม้ออกจากนิโคตินที่ไม่ได้เป็นสาเหตุหลักก่อให้เกิดมะเร็ง ซึ่งตรงกันข้ามกับความเชื่อที่มีมานาน อินเดียก็เหมือนกับประเทศอื่นๆ ที่ต้องก้าวข้ามผ่านการตีกรอบว่าการใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบเป็นปัญหาทางศีลธรรม และต้องเข้าใจสิ่งนี้ในกรอบความคิดที่มีอิสระมากขึ้น