
ส่วนแบ่งทางการตลาดของบริษัทผลิตบุหรี่ไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกาลดลงเล็กน้อยตามรายงานจาก Nielsen ที่เปิดเผยผลสำรวจในระยะเวลา 4 สัปดาห์ จนถึงวันที่ 18 ธันวาคม 2020
Nielsen ระบุว่ายอดขายบุหรี่ไฟฟ้าอันดับหนึ่งยังคงเป็นของ Juul ที่มีส่วนแบ่ง 37.6% ลดลงจากรายงานก่อนหน้าที่มีส่วนแบ่ง 38.2% ในขณะที่อีกแบรนด์ชั้นนำอย่าง Vuse ซึ่งเพิ่งได้รับอนุญาตจาก องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (U.S.FDA) ให้จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้ารสใบยาสูบได้ มีส่วนแบ่ง 33.5% ลดลงจากรายงานก่อนหน้าที่มีส่วนแบ่ง 34%
แบรนด์อื่นๆ อย่าง NJoy ยังคงมีส่วนแบ่งที่ 3% เท่าเดิม ในขณะที่ยอดขายของ blue eCigs ลดลงจาก 2.4% ไปเหลือ 2.3% ซึ่งหากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีที่ผ่านมา ยอดขายของบุหรี่ไฟฟ้าในภาพรวมเพิ่มขึ้นถึง 4.8% โดยมีสาเหตุสำคัญจากการขึ้นราคาขายอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามยอดขายบุหรี่ไฟฟ้าได้ลดลงเรื่อยๆ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2020 โดยมีสาเหตุหลักมาจากการเพิ่มระเบียบข้อบังคับโดยองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) ซึ่งไม่อนุญาตให้บริษัทจัดจำหน่าย, ทำการตลาด หรือผลิตน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ารสที่ยังไม่ถูกรับรอง (Unauthorized Flavour)
ในขณะที่บุหรี่แบบปกติมียอดขายลดลง 8.2% หากเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีที่ผ่านมา สาเหตุสำคัญคือสถานการณ์โลกที่เริ่มดีขึ้นและทำให้ประชาชนสามารถกลับไปทำงาน, ช็อปปิ้ง ใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงกับช่วงที่สถานการณ์เป็นปกติ ทั้งนี้สาเหตุสำคัญที่ทำให้ยอดขายในปี 2020 เพิ่มขึ้นก็เป็นเพราะผู้สูบบุหรี่ได้เร่งซื้อบุหรี่ตุนไว้เพื่อรองรับมาตรการกักตัวอยู่บ้าน (Stay at Home) นั่นเอง
อ้างอิงจาก : Trimmed demand for e-cigarettes lowers market shares for Juul, Vuse
https://journalnow.com/business/local/trimmed-demand-for-e-cigarettes-lowers-market-shares-for-juul-vuse/article_fa44fbf0-68b4-11ec-9dc8-0b4f5405f25f.html
More Stories
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ควรให้ความสำคัญกับการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้ามากกว่าการห้ามสูบบุหรี่
แนวทางการลดความเสี่ยงในการควบคุมยาสูบ
นักเคลื่อนไหวบุหรี่ไฟฟ้ายกย่องกฎหมายบุหรี่ไฟฟ้าใหม่ในฟิลิปปินส์