ความหวังจะเจิดจรัสตลอดไปสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกยาสูบ

22 กรกฎาคม 2563

ผู้สื่อข่าว Sunday Mail

ยาสูบซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจมูลค่าสูงที่มักนำกำลังใจที่ดีมาสู่ชุมชนเกษตรกรรมในประเทศซิมบับเว ซึ่งมีจำนวนเกษตรกรอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 100,000 รายที่มาตั้งรกรากใหม่ในช่วงเปลี่ยนสหัสวรรษใหม่ (ค.ศ. 2001)

ณ วันที่ 3 กรกฎาคมปีนี้ เกษตรกรในท้องถิ่นมีรายได้จำนวน 258 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการขายยาสูบอันมีค่านี้จำนวน 110 ล้านกิโลกรัม ซึ่งมากกว่าเงินรายได้ในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วถึง 56 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม นักวิ่งเต้นและหน่วยงานด้านสุขภาพโดยเฉพาะองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ผลักดันให้มีการปรับลดกำลังการผลิตหรือเปลี่ยนเป็นพืชเศรษฐกิจทดแทน เนื่องจากความเสี่ยงด้านสุขภาพจากการสูบยาสูบ

ผู้ผลิตรายใหญ่อย่างซิมบับเว ซึ่งเป็นผู้ผลิตยาสูบใบรายใหญ่ที่สุดในทวีปและเป็นผู้ผลิตยาสูบที่ผ่านการบ่มไอร้อนที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลก รองจากจีน บราซิลและสหรัฐอเมริกา เกิดความสับสนมากขึ้นระหว่างความต้องการที่จะต่อสู้กับโรคไม่ติดต่อที่เกิดจากการสูบบุหรี่กับการรักษาอุตสาหกรรมที่มั่งคั่งนี้ไว้ต่อไป

แต่ปริศนานี้กำลังค่อย ๆ ได้รับการแก้ไขจากการเกิดเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่กำจัดควันยาสูบและทำให้การบริโภคยาสูบปลอดภัยยิ่งขึ้น

ความก้าวหน้าที่สำคัญล่าสุดอาจเป็นของยักษ์ใหญ่อุตสาหกรรมยาสูบระดับโลก ฟิลลิป มอร์ริส อินเตอร์เนชั่นแนล (PMI) เจ้าของผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เรียกว่า IQOS ผลิตภัณฑ์แบบให้ความร้อนแบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐฯ ให้สื่อสารกับผู้บริโภคในฐานะผลิตภัณฑ์ลดความเสี่ยง (MRTP) เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2563

ที่สำคัญที่สุด หลังจากการตรวจสอบอย่างเข้มงวดเป็นเวลา 43 เดือน ทาง FDA ได้ข้อสรุปว่าผลิตภัณฑ์ IQOS ซึ่ง “ให้ความร้อนแก่ใบยาแต่ไม่เผาไหม้” นั้น “ลดการเกิดสารเคมีที่เป็นอันตรายและอาจเป็นอันตรายที่ปล่อยออกมาจากควันบุหรี่มวนขณะเผาไหม้ได้อย่างมีนัยสำคัญ”

โดยพื้นฐานแล้วระบบนี้ทำงานด้วยเทคโนโลยีที่ไม่เผาไหม้ ซึ่งให้นิโคตินแก่ผู้สูบบุหรี่ในขณะที่ลดความเสี่ยงต่อสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการเผาไหม้ของบุหรี่ได้อย่างเด่นชัด

ประเทศต่าง ๆ เช่น สหราชอาณาจักร เยอรมนีและเนเธอร์แลนด์ ก็พบข้อสรุปเช่นเดียวกันนี้

นี่เป็นเทคโนโลยีลดความเสี่ยงที่สามารถช่วยสร้างความยั่งยืนให้กับการปลูกยาสูบของเกษตรกรยาสูบในซิมบับเวในระยะกลางถึงระยะยาวได้

นายอังเดร คาลานท์โซโปลอซ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ PMI กล่าวว่า “มีความจำเป็นอย่างเร่งด่วนที่ต้องมีการสนทนาหารือกันของผู้ที่มีแนวคิดพื้นฐานแตกต่างกันเกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือเพื่อให้บรรลุแนวทางสังคมไร้ควัน มีความจำเป็นในตอนนี้มากยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ

“การตัดสินใจของ FDA แสดงตัวอย่างที่สำคัญถึงวิธีการที่รัฐบาลและองค์กรสาธารณสุขสามารถกำกับควบคุมผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่ไร้ควันได้เพื่อแยกผลิตภัณฑ์เหล่านี้ออกจากบุหรี่และเพื่อส่งเสริมสุขภาพของประชาชน”

เชื่อกันว่าผู้สูบบุหรี่ 10.6 ล้านคนทั่วโลกนั้นเลิกบุหรี่และเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์ IQOS แล้ว

PMI เป็นบริษัทยาสูบชั้นนำระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและการจำหน่ายบุหรี่ ตลอดจนผลิตภัณฑ์ไร้ควันรวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์เสริมที่เกี่ยวข้อง และผลิตภัณฑ์ที่มีสารนิโคตินในตลาดนอกสหรัฐอเมริกา

เกษตรกรยาสูบมีชีวิตอยู่กับแนวโน้มความเป็นไปได้ที่พืชเศรษฐกิจนี้จะถูกสั่งห้าม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่กรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบ (WHO FCTC) ขององค์การอนามัยโลก ได้กลายเป็นสนธิสัญญาฉบับแรกที่เจรจาภายใต้การอุปถัมภ์ขององค์การอนามัยโลกในปี พ.ศ. 2548

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมาตราที่ 9 และ 10 ของ FCTC นั้นเกี่ยวกับการกำกับควบคุมเนื้อหาของผลิตภัณฑ์ยาสูบและการเปิดเผยผลิตภัณฑ์ยาสูบ ตามลำดับ ในขณะที่มาตราที่ 17 และ 18 เกี่ยวกับการให้การสนับสนุนทางเลือกที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจและการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของบุคคล ตามลำดับ

ในขณะที่รัฐบาลต้องการกำจัด “วิถีชีวิต” หรือโรคที่ไม่ติดต่อ เช่น หลอดลมอักเสบ ถุงลมโป่งพอง โรคหัวใจและโรคมะเร็ง ซึ่งในบางกรณีอาจเกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่โดยตรง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลก็รู้สึกว่ามีความจำเป็นที่จะต้องปกป้องอุตสาหกรรมที่ส่งผลกระทบในเชิงบวกทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อชีวิตของชาวซิมบับเวกว่าหกล้านคน เกือบครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งหมดในประเทศ

ปัจจุบันมีผู้ค้ายาสูบที่ลงทะเบียนแล้วกว่า 17 ราย มีสถานประมูลที่ได้รับอนุญาต 4 แห่ง โรงงานตีใบยาสูบ 3 แห่ง และผู้ผลิตบุหรี่ 7 รายที่ล้วนดำรงชีวิตอยู่โดยพึ่งพากิจกรรมในภาคอุตสาหกรรมนี้

สถานประกอบการเหล่านี้จ้างงานคนในท้องถิ่นมากมาย

นวัตกรรมในรูปแบบของเทคโนโลยีอย่างเช่น IQOS ของ PMI จึงจุดประกายความหวังว่าอาจจะมีอนาคตที่เป็นไปได้และยั่งยืนสำหรับอุตสาหกรรมนี้ก็เป็นได้

Hope springs eternal for tobacco farmers