
เมื่อเดือนที่แล้วสาธารณสุขประเทศอังกฤษและสำนักงานสถิติแห่งชาติออกมาเปิดเผยจำนวนผู้สูบบุหรี่ในประเทศว่าลดลงกว่า 1.6 ล้าน – 6.1 ล้านคนแล้วเมื่อดูกันตั้งแต่ปี 2011 – 2017 ในขณะเดียวกันนะครับเขาก็พบว่าผู้ใช้บริการศูนย์เลิกบุหรี่ในระบบศูนย์ดูแลสุขภาพแห่งชาติก็มีจำนวนลดลงจาก 8 แสนรายในปี 2011 เหลือเพียง 3 แสนรายในปี 2017 เท่านั้น
ส่วนอัตราการใช้บุหรี่ไฟฟ้าในปี 2017 อยู่ที่ร้อยละ 5 ซึ่งมีความใกล้เคียงกับปีก่อน โดยพบว่ากลุ่มอายุ 25 – 49 ปีมีอัตราผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้ามากกว่ากลุ่มอายุอื่น และมีวัตถุประสงค์ในการใช้เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยเลิกบุหรี่ ทั้งนี้ประมาณ 70% ของผู้สูบบุหรี่เชื่อว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ธรรมดา
ในด้านการเลิกบุหรี่ด้วยการให้นิโคตินทดแทนและการให้ยาเพื่อช่วยเลิกบุหรี่ เช่น varenicline มีปริมาณลดน้อยลงเมื่อเทียบกับปีก่อน ในขณะที่ยา bupropion เป็นยาที่สั่งจ่ายให้กับผู้สูบบุหรี่น้อยที่สุด ทั้งนี้ ผลจากอัตราการสูบบุหรี่ที่ลดลงทำให้ค่าใช้จ่ายของยาและเวชภัณฑ์สำหรับการเลิกบุหรี่นั้นลดลงเช่นกัน
ลองอ่านข่าวเพิ่มเติมฉบับเต็มกันได้ที่ Pharmaceutical Journal นะครับ
More Stories
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ควรให้ความสำคัญกับการเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้ามากกว่าการห้ามสูบบุหรี่
FDA เปิดตัวเว็บไซต์ให้ความรู้เพื่อการศึกษาเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า
รัฐบาลอินโดนีเซียคาดว่าจะเปิดรับผลิตภัณฑ์ยาสูบทางเลือกนอกจากบุหรี่มากขึ้น